ทดลองประสบการณ์ ฝึกสมาธิใต้น้ำตกที่วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ ชิมโซเมงอันเลื่องชื่อและเมนูผักจากภูเขา (จังหวัดโทยามะ เมืองคามิอิจิ)
คามิอิจิเป็นเมืองที่มีความเงียบสงบ ตั้งอยู่บนเชิงเขาสึรุกิบริเวณเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ อยู่ในระดับความสูง ที่ 2,999 เมตร จากน้ำทะเล เมื่อหิมะจากเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือละลายลงและไหลสู่ผืนดินด้านล่างจึงเกิดเป็นแหล่งน้ำผุดธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่รู้จักในนามธรรมชาติบำบัดถึง 3 แห่ง เมืองคามิอิจิจึงเป็นเมืองที่อยู่ในตำแหน่งที่ดี อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ที่สามารถคืนพลังชีวิตให้แก่ผู้มาเยือนได้ หนึ่งในสถานที่ดังกล่าว ในโออิวะมี “วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ” เป็นวัดหลักของศาสนาพุทธนิกายชินงอน ซึ่งว่ากันว่าก่อตั้งโดยนักบวชผู้มีชื่อเสียง เกียวกิ ในปีค.ศ. 725 คนในท้องถิ่นรู้จักกันในนาม "โอฟุโดะซังแห่งโออิวะ" มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ภายในโบสถ์กลางมีรูปสลัก มากาอิบุทซึ เป็นรูปสลักของฟุโดเมียวโอ (อจละแปลว่าท้าวผู้ไม่หวั่นไหว) ที่มีความสูง 6 เมตร และมีความกว้างประมาณ 10 เมตร และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ มีการกล่าวว่าเป็นหนึ่งในปฏิมากรรมที่มีความงามและความใหญ่โตที่เป็นที่สุดในญี่ปุ่น ภายในวัดมีน้ำตก 6 สาย สำหรับให้ผู้ที่มาสักการะได้ฝึกสมาธิใต้น้ำตก ซึ่งมีผู้คนหลากหลายวัยที่มาเป็นประจำ
เดินทางถึง “วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ” วัดไดฮนซังนิกายชินงอนมิคเคียว
เรากำลังเดินทางไปสู่ “วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ” จากสถานีรถไฟคามิอิจิเป็นรถไฟภูมิภาคโทยามะ เราจะนั่งรถต่อไปอีก 10 นาทีก็จะถึงที่วัด วัดแห่งนี้เป็นวัดไดฮนซังนิกายชินงอนมิคเคียว ตรงที่ริมเส้นทางบันไดขึ้นสู่วัดจะมีที่พักและร้านค้าขายของดีประจำท้องถิ่น “โออิวะโซเม็ง” โดยเฉพาะในช่วงกรีนซีซั่นที่นี่จะมีผู้คนมากมายและคึกคักเป็นพิเศษ และมีผู้มาฝึกตนในทุกปี มีทั้งฝึกอดทนต่อความหนาวในวันอุณหภูมิที่หนาวจัด และฝึกสมาธิใต้น้ำตกซึ่งมีคนจากทั่วประเทศมาที่นี่เพื่อฝึกแบบนี้ หลังจากเราที่ล้างมือและตักน้ำมาบ้วนปากที่ศาลาชำระล้างเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินไปที่โบสถ์เพื่อจุดธูปสักการะ และคำนับ 1 ครั้งก่อนเดินชมโบสถ์ด้วยความสำรวม
Column
อาจจะได้เจอสัตว์ป่าด้วยนะ
ตำแหน่งที่ตั้งของวัดโออิวะซังนิตเซคิจิแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติใกล้ชิด มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่โดยรอบบริเวณ อาจมีโอกาสได้พบกับลิง หรือเลียงผา ในขณะที่กำลังนั่งรถเดินทางเข้ามา หรือในระหว่างที่กำลังเดินเล่นรอบๆ ก็เป็นได้
มากาอิบุทซึมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติที่น่าเกรงขาม
เมื่อเดินเข้าไปในโบสถ์กลางจะพบกับรูปสลักนูนของฟุโดเมียวโอที่จ้องมองเราอยู่ตรงหน้า มือขวาถือดาบอันแสดงถึงกำลัง มือซ้ายถือเชือกอันแสดงถึงปัญญา ปฏิมากรรมที่เห็นอยู่ตรงนี้ช่างน่าดึงดูด ราวกับท่านจะลอยมาอยู่ตรงหน้าใกล้ๆ ซึ่งรูปสลักนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปลายยุคเฮอันจนถึงยุคคามาคุระ ในบรรดารูปสลักมากาอิบุทซึที่ถูกสร้างในยุคเดียวกัน รูปสลักของที่นี่ได้ถูกยกย่องให้เป็นสุดยอดแห่งความงดงาม ตอนสมัยมุโรมาจิและปีโชวะที่ 42 ที่โบสถ์แห่งนี้ได้เกิดไฟไหม้ขึ้น แต่ก็รูปสลักก็แทบจะไม่มีร่อยรอยความเสียหายเลย ในวันที่ 1 และ 27 ของทุกเดือน และทุกๆ วันอาทิตย์จะมีการจัดพิธีสวดอธิษฐานโกมะ และจากโบสถ์กลางเราสามารถเดินข้ามเชื่อมไปสู่โบสถ์ไดนิจิโดะได้อีกด้วย
ก่อนฝึกสมาธิใต้น้ำตก ต้องไปติดต่อที่สำนักงานวัดก่อน
ถ้าหากต้องการลองประสบการณ์ฝึกสมาธิใต้น้ำตก กรุณาติดต่อสำนักงานวัดที่อยู่ข้างๆ โบสถ์ให้เรียบร้อยก่อนโดยเขาจะให้เขียนเรื่องที่อยากทำให้สำเร็จ คำอธิษฐาน และชื่อตนเองลงบนแผ่นไม้โกมะ เสร็จแล้วจะให้เราเช่าชุดขาวในการฝึกตน ส่วนแผ่นไม้โกะมะทางวัดจะมีการเผาในทุกๆ วันอาทิตย์
ระวังน้ำจะค่อนข้างเย็น ขออย่าให้น้ำโดนบริเวณศีรษะนะคะ
※ โปรดระวังมีค่าใช้จ่ายในการฝึกสมาธิใต้น้ำตกและมีค่าเช่าชุดขาว แต่จะไม่มีบริการให้เช่ายืมผ้าขนหนู
ถึงเวลาฝึกตนที่น้ำตกแล้ว
เมื่อเปลี่ยนชุดขาวแล้ว ให้เราจะทำการสรงน้ำพระพุทธรูป เสร็จแล้วให้อธิษฐานขอฝึกตนที่น้ำตกและขอให้สิ่งที่เขียนในแผ่นไม้โกมะเป็นจริง เราจะเดินเข้าออกจากใต้น้ำตกกี่ครั้งก็ได้ แต่เมื่อเลือกสายน้ำสายไหนแล้ว ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนไปยืนที่สายน้ำสายอื่นได้ ดังนั้น ขอให้ตัดสินใจเลือกให้ดี อย่าลังเล ในส่วนชั้นล่างของน้ำตก 6 สายมี 12 น้ำตกที่สามารถฝึกสมาธิที่นี่ต่อได้เลย โดยไม่ต้องแจ้งสำนักงานวัดอีก
Column
น้ำตก 6 สาย เลือกอะไรดี
น้ำตก 6 สายนี้มีความหมายถึงการชำระล้างทั้ง 6 เริ่มจากด้านซ้ายคือ “ตา” “ปาก” “จมูก” “หู” “ร่างกาย” “จิตใจ” สามารถเลือกน้ำตกสายไหนก็ได้ตามต้องการ
พนมมือ ตั้งสมาธิ และปล่อยให้น้ำตกกระทบกาย
ถึงเวลาฝึกสมาธิจริงๆ แล้ว น้ำตก 6 สายนี้สูง 5.5 ม. สายน้ำที่ออกจากปากของมังกร 1 ตัวต่อ 1 สาย มีกำลังน้ำที่แรง ความเย็นจากน้ำที่มาจากการละลายของหิมะในฤดูร้อนช่วยลดความร้อนของร่างกายให้เย็นลง แต่เดิมน้ำตก 6 สายของ “วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ” แห่งนี้ ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ชำระล้างร่างกายและจิตใจก่อนเข้าไปสักการะฟุโดเมียวโอ การรับการประทบจากน้ำตกที่ไหลออกจากปากของมังกรทั้ง 6 นั้น เชื่อกันว่าจะช่วยชำระล้างตัณหาทั้ง 6 ออกไปได้
Column
อบอุ่นร่างกายด้วยโออิวะฟุโดโนะยุ
อุณหภูมิร่างกายเย็นลงจากการฝึกสมาธิใต้น้ำตกแล้ว ต้องเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ใกล้ๆ นี้มีออนเซ็นธรรมชาติ “โออิวะฟุโดโนะยุ” เพียงแช่น้ำออนเซ็นจากแหล่งธรรมชาติ จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นจนถึงภายในและให้ความรู้สึกสบายเหมือนฝัน บ่อน้ำภายในอาคารมีการประดับกระจกสีลวดลายฟุโดเมียวโอและน้ำตก 6 สายด้วย
โออิวะฟุโดโนะยุ“วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ” ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย
นอกจากมากาอิบุทซึรูปสลักฟุโดเมียวโอและน้ำตก 6 สายแล้ว ที่“วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ” ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเลยทีเดียว บริเวณน้ำตก 6 สาย มีพระพุทธรูป 6 องค์ประดิษฐานอยู่ข้างๆ และใกล้ๆ กันก็มีน้ำฟูจิมิซึที่ได้รับเลือกให้เป็นน้ำขึ้นชื่อประจำจังหวัดโทยามะ อีกทั้งหอพระโพธิสัตว์ด้านนอกอุโบสถจะมีเสาสามต้นอยู่ด้านหน้า ลักษณะเหมือนอุโบสถสีทองหรือคอนจิกิโดที่วัดจูซนจิ และหอไดนิจิโดรวมถึงเจดีย์สามชั้นก็ให้ความรู้สึกบรรยากาศที่เคร่งขรึม ณ สถานที่แห่งนี้เพียงได้มาชมความงามอันปราณีตบรรจงของการสร้างโบสถ์ อุโบสถต่างๆ แล้ว ความงดงามตามธรรมชาติที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูก็จะนำพาความสุขจากการได้มาเยี่ยมชมที่แห่งนี้ ขอเชิญมาใช้เวลาเดินเล่นผ่อนคลายให้เต็มอิ่มเลยนะคะ
“โซเม็ง” ของโออิวะ ในน้ำซุปกลมกล่อม
โซเม็งโออิวะคือของดีประจำท้องถิ่น มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ตลอด 70 ปีผู้คนที่มาเยี่ยมชมโออิวะจะไม่พลาดแวะทานโซเมงที่นี่เลย เป็นที่นิยมมากขนาดที่ว่าในฤดูร้อนจะมีลูกค้าเข้าคิวต่อแถวทุกร้าน บริเวณริมเส้นทางบันไดขึ้นสู่วัดโออิวะซังนิตเซคิจิจะมีร้านอาหารและเรียวกังเรียงรายอยู่ข้างทาง ปัจจุบันมีร้านขายโซเมงทั้งหมด 3 ร้าน ถ้าพูดถึงโซเมงโออิวะก็จะนึกถึงการจัดวางอันปราณีตราวกับการเรียงเส้นไหมพรม จุดเด่นของเส้น คือ ใช้เวลาหมักเส้นนาน 3 ปี เมื่อนำมาจุ่มกับน้ำเย็นๆ ของโออิวะ เส้นก็จะเหนียวนุ่ม จุ่มน้ำซุปแล้วไม่ยืดง่ายๆ แต่ละร้านก็จะมีซุปโซเมงกับเส้นสูตรเฉพาะ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูปลา เมนูผักจากภูเขา และของหวานสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมเสิร์ฟอีกด้วย แต่ละร้านต่างมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ สงสัยต้องลองชิมทุกร้านเพื่อตามหาโซเมงที่รสชาติถูกใจซะแล้ว
Column
ของชื่อดังเมนูใหม่ “โซเมง “เส้นสด” ของโออิวะ”
ที่ร้าน “ดังโงะยะ” เริ่มเปิดขาย “โซเม็ง “เส้นสด” ของโออิวะ” ตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2020 คิดค้นสูตรโดยเจ้าของร้านรุ่นที่ 6 จุดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่ทำเส้นโซเม็งด้วยมือและใช้น้ำแร่ของโออิวะ เนื้อสัมผัสจึงนุ่มเรียบเนียน มีกลิ่นหอมๆ ของข้าวสาลี แน่นอนว่าสำหรับคนอยากทานเทียบกัน ร้านก็มีจำหน่ายเป็นเซ็ตที่มีทั้งเส้นกึ่งสำเร็จรูปและเส้นสดเสิร์ฟคู่กันให้ลอง ขอบอกว่าพลาดไม่ได้เลยค่ะ
ไปชิมเมนูผักจากภูเขาที่ “ร้านดังโงะยะ” ทุ่มเทปรุงขึ้นมา
ริมเส้นทางบันไดขึ้นสู่วัด หรือที่เรียกว่า ทางบันไดร้อยขั้น มีร้านขาย “โซเม็งโออิวะ” อยู่ 3 ร้าน หนึ่งในนั้นมีร้านที่ทำกิจการที่พักควบคู่ไปด้วย คือ “ร้านดังโงะยะ” ร้านนี้ก่อตั้งมาแล้ว 130 ปี ปัจจุบันคู่สามีภรรยาผู้สืบทอดรุ่นที่ 6 เป็นผู้ดำเนินกิจการ เมนูยอดนิยมคืออาหารผักจากภูเขาที่หาได้จากทุ่งข้างเคียงในฤดูใบไม้ผลิ สำหรับร้านอาหารจะเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงสิ้นเดือนตุลาคม
“หุบเขาเซนกังเค” อาบกายด้วยไอออนประจุลบจากธรรมชาติ
จากน้ำตก 6 สายที่ “วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ” เดินตามทางลงไปด้านล่างประมาณไม่เกิน 200 เมตรจะถึงหุบเขาที่เรียกว่าเซนกังเค เป็นหุบเขาที่ทอดยาวระยะ 500 ม. มีแม่น้ำโออิวะตัดผ่าน เป็นลำธารคดเคี้ยวอันเกิดจากที่สภาพภูมิประเทศมีหินน้อยใหญ่ก่อให้เกิดเป็นน้ำตกและแอ่งน้ำขึ้นมา ต้นไม้สูงตระหง่านบดบังแสงแดดและให้ร่มเงา ด้วยเหตุนี้แสงแดดจึงส่องถึงพื้นป่าได้ยาก ทำให้พืชจระกูลเฟิร์นหรือตะไคร่น้ำเจริญเติบโตได้ดีมาก สร้างความชื่นฉ่ำให้ผู้ที่พบเห็นอยู่เสมอ ว่ากันว่าเมื่อเทียบอุณหภูมิของที่นี่กับบริเวณวัดนิตเซคิจิจะพบว่าที่นี่อุณหภูมิต่ำกว่าประมาณ 5 องศา ความฉ่ำเย็นที่มากับสายลมและสายน้ำทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในฤดูร้อนเช่นเดียวกับฤดูอื่นๆ
จากพื้นที่ที่เขียวชอุ่มอย่าง “หุบเขาเซนกังเค” เราจะเดินลึกเข้าไปอีก
ข้ามสะพานฮาจิโยบาชิที่ปกคลุมด้วยพืชมอสไปสู่ถ้ำนักบวชโอคุโนะ ถ้ำแห่งนี้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่สมัยเมจิปีที่ 29 เป็นพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์และมีความต่างจาก “วัดโออิวะซังนิตเซคิจิ” ในความรู้สึกอันเคร่งขรึม และต้องเตือนว่าที่นี่พื้นลื่นต้องระวังล้มด้วยนะคะ
กลับมาสู่พื้นถนนที่ปูทางเดินได้สะดวกแล้ว เมื่อเดินต่อไปอีกประมาณ 30 – 40 นาที จะได้มาชมบ้านโบราณที่ถูกใช้เป็นฉากในอนิเมชั่น “คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์ (Wolf Children)” โดยผู้กำกับและเขียนบทคุณมาโมรุ โฮโซดะ ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองคามิอิจิ มาถึงที่นี่ใครเคยดูอนิเมะเรื่องนี้ยังไงก็ต้องตกตะลึง เพราะบ้านหลังนี้เหมือนหลุดออกมาจากฉากในอนิเมะเลยทีเดียว
ครั้งนี้เราได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยงไฮไลท์ของบริเวณโออิวะแห่งเมืองคามิอิจิกันไปแล้ว หากได้มาที่นี่ขอให้ลองมารีเฟรชร่างกายและจิตใจด้วยการทดลองฝึกสมาธิใต้น้ำตก และมีความสุขในการชิมเมนูผักจากภูเขาและโซเม็งโออิวะกันนะคะ