11 อาหารขึ้นชื่อที่พลาดไม่ได้ในโทยามะ

ในทะเลญี่ปุ่นมีปลาอยู่ถึงประมาณ 800 ชนิด และ 500 ชนิดจากทั้งหมดนั้นอาศัยอยู่ในอ่าวโทยามะอันอุดมสมบูรณ์
 
คัมบุริ หรือ ปลาหางเหลืองฤดูหนาวของโทยามะ ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งอาหารฤดูหนาว” โดยเฉพาะผลผลิตจากเมืองฮิมินั้นเป็นที่รู้จักทั้งในและนอกจังหวัด ตามข้อมูลจากชาวประมงท้องถิ่น ปลาที่ได้ชื่อว่าเป็นฮิมิคัมบุริจะต้องเป็นปลาที่ถูกจับด้วยแหตาข่ายที่ยึดอยู่กับที่ในระหว่างฤดูคัมบุริ และมีน้ำหนักตั้งแต่หกกิโลกรัมขึ้นไป
เมนูจากฮิมิคัมบุริที่เป็นที่นิยมที่สุด เช่น ซาชิมิ บุริชาบู (เนื้อปลาจุ่มในน้ำเดือด) คอปลาหางเหลืองย่าง ชิโอะบุริ (ปลาหางเหลืองหมักเกลือ) และสตูปลาหางเหลืองกับหัวไชเท้าญี่ปุ่น คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับปลาหางเหลืองในรูปแบบของผลิตภัณฑ์แปรรูปที่หลากหลายซึ่งมีขายในเมืองฮิมิและทั่วทั้งจังหวัด

คุณสามารถเพลิดเพลินกับหมึกหิ่งห้อย (โฮตารุอิกะ ในภาษาญี่ปุ่น) จากอ่าวโทยามะได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะในแบบตากแห้ง หรือหมักในโชยุ เมื่อถึงฤดูหมึกหิ่งห้อย ก็สามารถนำหมึกหิ่งห้อยมาทำเป็นซาชิมิ หรือต้ม แล้วเสิร์ฟพร้อมกับมิโซะเปรี้ยว และซอสโชยุผสมขิง คุณยังสามารถรับประทานหมึกหิ่งห้อยในแบบเท็มปุระและชาบูชาบู หรือเป็นอาหารว่างก็ได้
 
หมึกหิ่งห้อยของโทยามะมีขนาดใหญ่ เนื้อเยอะเต็มคำ อีกทั้งยังมีรสเข้มข้นและอร่อย อัดแน่นไปด้วยรสชาติของต้นฤดูใบไม้ผลิในอ่าวโทยามะ

ในฤดูหมึกหิ่งห้อย นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศญี่ปุ่นจะมาที่อ่าวโทยามะเพื่อชมหมึกหิ่งห้อยที่เพิ่งวางไข่กระโดดขึ้นเหนือน้ำและขึ้นมาบนชายหาด นับเป็นพฤติกรรมที่มีความพิเศษและแปลกประหลาด ทำให้หมึกหิ่งห้อยเป็นตัวแทนของความพิศวงแห่งอ่าวโทยามะ

กุ้งขาวญี่ปุ่น (ชิโระเอบิ ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นที่รู้จักในฐานะอัญมณีแห่งอ่าวโทยามะ มีเพียงที่อ่าวโทยามะเท่านั้นที่สามารถจับกุ้งชนิดนี้ได้เป็นปริมาณมากจนทำให้อุตสาหกรรมประมงท้องถิ่นสามารถดำรงอยู่ได้ โดยส่วนใหญ่แล้วกุ้งขาวญี่ปุ่นจะถูกนำมากินแบบแห้ง หรือปรุงด้วยการทอด รวมถึงเท็มปุระกรุบกรอบ หรือซาชิมิที่ละลายในปาก ไม่ว่าจะปรุงด้วยวิธีไหน กุ้งชนิดนี้จะทำให้คุณกินอย่างเพลิดเพลินจนหยุดไม่ได้

ด้านหน้าของสถานีโทยามะมีร้านอิซากายะชื่อว่า อาระซัง นักท่องเที่ยวสามารถมาลองชิม “กุ้งขาวญี่ปุ่นชุบแป้งทอด” เมนูยอดนิยมของร้านได้ ซึ่งเมนูนี้ได้ดึงเอาความหอมของกุ้งขาวญี่ปุ่นออกมาได้เป็นอย่างดี

ปลาไหลเอลเพาต์เป็นปลาทะเลน้ำลึก มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า เก็งเงะ เพราะเคยถูกมองว่าเป็นอาหารที่ไม่เป็นที่ต้องการ ชื่อเรียกของมันมีความหมายว่าคุณภาพของมัน “ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน” ปลาไหลเอลเพาต์เป็นปลาที่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากเนื้อมีส่วนประกอบของน้ำสูง ทำให้ปลาสูญเสียความสดอย่างรวดเร็ว และเมือกเหลวบนตัวของมันก็มักติดหนึบกับแหจับปลา

อย่างไรก็ตาม คนท้องถิ่นที่อาศัยบริเวณอ่าวโทยามะก็พบวิธีในการกินปลาชนิดนี้ให้อร่อยจนได้ และพบว่ามันมีรสชาติอร่อยมาก ชื่อ เก็งเงะ กลายเป็นคำแสดงความหมายใหม่ ได้แก่ “ปลาปีศาจ” และความนิยมของปลาไหลเอลเพาต์ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืน จนกลายเป็นวัตถุดิบหลักอย่างหนึ่งในวัฒนธรรมอาหารของโทยามะ

ปลาไหลเอลเพาต์มักจะถูกเสิร์ฟเป็นเมนูซุปที่บ้าน เพราะเป็นปลาที่มีราคาไม่แพงและหาซื้อได้ทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต เหมาะสำหรับการทำเป็นน้ำซุป ร้านอิซากายะหลายแห่งเสิร์ฟปลาชนิดนี้ด้วยการนำไปทอด แบบแห้ง หรือทำเป็นเท็มปุระ เท็มปุระปลาไหลเอลเพาต์มีความกรอบนอกและด้านในให้เนื้อสัมผัสคล้ายวุ้นที่จะละลายบนลิ้น มอบรสชาติเบาๆ และหรูหรา

ปูหิมะแดงของโทยามะ (เบนิซูไวงานิ ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นที่รู้จักในฐานะ “ราชินีแห่งอาหารโทยามะ” และได้รับการประทับตราสินค้าว่า ปูหิมะแดงโคชิ ตามชื่อในประวัติศาสตร์ของแคว้นโทยามะ

เพื่อให้ได้รับการประทับตราสินค้าและจัดส่งในฐานะ “ปูหิมะแดงโคชิอันดับหนึ่ง” ปูจะต้องถูกจับในท่าเรือประมงภายในจังหวัด มีน้ำหนักอย่างน้อยหนึ่งกิโลกรัม และมีความกว้างของกระดองอย่างน้อย 140 มม. มีกระดองแข็ง (และเนื้อแน่น) และขาทั้งหมดจะต้องติดอยู่กับตัวปูอย่างครบถ้วน

ปูหิมะแดงของโทยามะมีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากที่ตั้งของท่าเรืออยู่ใกล้กับแหล่งประมง ทำให้สามารถกระจายสินค้าโดยที่ยังคงความสดไว้อย่างเต็มเปี่ยม

หากคุณมาเที่ยวโทยามะ แล้วไม่ได้ลิ้มลองอาหารจากอ่าวโทยามะก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึงจริงๆ ซูชิ ข้าวหน้าอาหารทะเลหรือไคเซ็นดง ซาชิมิ และอาหารอื่นๆ จากอ่าวโทยามะ จะทำให้ต่อมรับรสของคุณได้สัมผัสกับอาหารรสเลิศ เมนูต่างๆ มาพร้อมกับวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานและหายาก ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล และมักจะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบที่จับได้ในแต่ละวัน ความสดที่ส่งตรงจากทะเลเหล่านี้จะทำให้คุณประทับใจจนยากจะลืมเลือน

มีผู้ผลิตซูชิปลาเทราต์มากกว่าสี่สิบรายในจังหวัดโทยามะ คุณอาจสงสัยว่าซูชิปลาเทราต์เหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างไร อันที่จริงแล้ว ซูชิปลาเทราต์แต่ละชิ้นไม่เหมือนกันเลยขึ้นอยู่กับวิธีการหุงข้าว ความสมดุลระหว่างรสหวานและเปรี้ยวของเครื่องปรุง สายพันธุ์ของปลาเทราต์ รวมถึงรสของน้ำส้มสายชูที่ใช้ ความหนาของเนื้อปลา วิธีการจัดเตรียมซูชิ และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อซื้อซูชิปลาเทราต์ (มาซุโนะซูชิ ในภาษาญี่ปุ่น) คุณอาจถูกถามว่าคุณจะกินตอนไหน หรือได้รับคำแนะนำว่าควรจะกินเมื่อไร เนื่องจากความสดของซูชิมีความสำคัญมาก ในขณะที่คุณหาซื้อซูชิปลาเทราต์ที่ชอบ คุณจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไปด้วยและได้สัมผัสกับอาหารอร่อยๆ ตลอดทาง

คมบุจิเมะ (หรือรู้จักกันในชื่อ “โคบุจิเมะ”) เป็นเมนูท้องถิ่นของโทยามะซึ่งทำจากการนำอาหารรสอ่อนมาประกบกันเหมือนแซนด์วิช เช่น ปลาไวต์ฟิชกับผักป่าโดยมีแผ่นสาหร่ายประกบอยู่ด้านนอก

คมบุจิเมะแบบที่เห็นได้บ่อยสุดในโทยามะทำจากปลามาร์ลิน ซึ่งคุณจะพบได้ทั่วไปเมื่อเห็นคมบุจิเมะอยู่ในเมนู

สำหรับไส้อื่นๆ ที่เป็นที่นิยมก็อย่างเช่น ปลาไวต์ฟิชชนิดต่างๆ กับกุ้ง รวมถึงเต้าหู้ และเนื้อวัว สาหร่ายที่ใช้ทำคมบุจิเมะมีขายทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต หลายคนจึงทำกินเองที่บ้านด้วย ซึ่งจังหวัดโทยามะก็ได้ชื่อว่าบริโภคสาหร่ายมากที่สุดในประเทศ

ราเม็งน้ำดำโด่งดังมากในประเทศ จะเห็นได้ในรายการทีวีญี่ปุ่นและสื่ออื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง ด้วยน้ำซุปสีดำทำให้ผู้ที่ได้ลิ้มลองรู้สึกประทับใจ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าราเม็งน้ำดำโทยามะของทุกที่จะมีแต่รสเค็ม บางครั้งก็มีรสชาติที่เข้มข้นและเค็มกลางๆ หรือบางครั้งก็มีรสอ่อนและรับประทานง่ายแม้น้ำซุปจะสีเข้มก็ตาม ผู้ชื่นชอบราเม็งที่มองหารสชาติแบบต้นตำรับต้องมาลิ้มลองเมนูนี้ให้ได้

ในช่วงฤดูปลาอายุ คุณจะได้เห็นชาวประมงถือไม้ยาวๆ ในแม่น้ำของโทยามะ
สวีตฟิช (อายุ ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นปลายอดนิยมในจังหวัด ซึ่งมีร้านอาหารหลายร้านที่เชี่ยวชาญการทำอาหารจากปลาชนิดนี้ โดยเฉพาะในเมืองโทนามิ

ร้านปลาอายุที่ชื่อว่า อุโอยาซุ ในเขตโอตะของเมืองโทนามิเสิร์ฟปลาอายุที่เพาะเลี้ยงแบบฟาร์มด้วยน้ำใต้ดิน และปลาอายุจากธรรมชาติ ซึ่งทั้งสองแบบล้วนได้มาจากแม่น้ำโชงาวะ

ปลาอายุจากธรรมชาติและปลาอายุที่เลี้ยงแบบฟาร์มต่างกันอย่างไร? คุณสามารถลิ้มลองปลาอายุทั้งสองแบบได้ที่ร้านอุโอยาซุ ซึ่งเมนูของทางร้านมีทั้งปลาอายุย่างเกลือ เท็มปุระปลาอายุ และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย อย่าพลาดมาลิ้มลองปลาอายุแสนอร่อยจากแม่น้ำโชงาวะเมื่อคุณมาเที่ยวโทยามะ

เมืองอาซาฮิ ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกสุดของจังหวัดโทยามะ มีชื่อเสียงเรื่องเมนูสตูปลาค็อด (ทาราจิรุ ในภาษาญี่ปุ่น) โดยมีร้านอาหารหลายร้านนำเสนอเมนูขึ้นชื่อนี้ที่ถนนหมายเลข 8 ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อทางหลวงแห่งสตูปลาค็อด

ร้านซากาเอะโชกุโดซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองอาซาฮิ เสิร์ฟสตูปลาค็อดในหม้อที่อัดแน่นด้วยปลาค็อดสไลซ์ ซึ่งเมนูนี้สามารถทานได้ถึงสองคนเลยทีเดียว ซุปเป็นรสมิโซะที่ปรุงมาแบบอ่อนๆ เพื่อช่วยชูรสปลาค็อดให้โดดเด่น ซึ่งรสชาติอร่อยจนคุณอยากซดน้ำเสียงดังๆ

ร้านอาหารเปิดเวลา 8 โมงเช้า และมีที่จอดรถกว้างขวาง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นร้านอาหารที่จุดพักรถในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังมีตู้เครื่องเคียงซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเครื่องเคียงเองได้ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ร้านแบบนี้ก็ยังให้ความรู้สึกแปลกใหม่
นอกจากสตูปลาค็อดแล้ว ซากาเอะโชกุโดยังนำเสนอเมนูอีกมากมาย ดังนั้นอย่าพลาดแวะมาลองทานกันที่นี่