พักค้างคืนในโรงแรมที่ทันสมัยและสวยงามในโทยามะ

เข้าพักในบ้านของช่างไม้ในอดีตที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้สวยงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของช่างฝีมือในอินามิ ชุมชนในเมืองนันโตะมีภูมิปัญญาด้านงานแกะสลักและงานช่างไม้มาเป็นเวลานาน ทาเตงูยะเป็นที่พักซึ่งมีห้าห้องนอน รองรับผู้เข้าพักได้ 9 คน และเปิดให้บริการสำหรับผู้เข้าพักหนึ่งกลุ่มต่อครั้งเท่านั้น

บ้านไม้โบราณขนาดสองชั้นนี้ได้รับการออกแบบภายในใหม่โดยได้แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์และรูปแบบสถาปัตยกรรมของอินามิ เช่น ส่วนห้องโถงภายในจัดแสดงงานศิลปะซึ่งทำจากเครื่องมือดั้งเดิมของช่างไม้ รวมถึงผลงานของช่างแกะสลักไม้ โคเมอิ ทานากะซึ่งจัดแสดงอยู่ทั่วทาเตงูยะ การตกแต่งภายในใช้โทนสีอบอุ่น และชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่แบบเปิดโล่ง (open-plan) ที่สามารถมองเห็นสวนญี่ปุ่นด้านนอกได้

เบดแอนด์คราฟต์ยังมีที่พักให้เช่าแบบส่วนตัวอีกห้าแห่งในเมืองอินามิ แต่ละแห่งล้วนมีคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับงานฝีมือที่แตกต่างกัน

รากุโดอันเป็น “โรงแรมศิลปะ” ในอาซูมะดาจิที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ (บ้านสไตล์ดั้งเดิมของเกษตรกร) ที่มีอายุกว่า 120 ปี และรายล้อมไปด้วยนาข้าว ที่พักในชนบทแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีทากาโอกะไม่ถึง 45 นาทีโดยรถไฟ

โรงแรมนี้เน้นไปที่การทำให้แขกที่มาพักรู้สึกผ่อนคลายและฟื้นฟูจิตใจผ่านรูปแบบความหรูหราที่เรียบง่ายและชวนให้ครุ่นคิด ห้องพักแขกมีสามห้อง แต่ละห้องได้รับการตั้งชื่อตามวัสดุของธีมงานออกแบบภายใน เช่น ห้อง “กระดาษ” มีผนังและเพดานที่ติดด้วยกระดาษวาชิแบบดั้งเดิม ภายในห้องพักเหล่านี้รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางมีงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลายทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก ทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัยซึ่งได้รับการคัดสรรมาอย่างดี

รากุโดอันมุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมการอนุรักษ์หมู่บ้านประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นและการผลิตพลังงานชีวมวลโดยใช้กิ่งไม้ที่ถูกตัดแต่งจากป่าในท้องถิ่น

เดอะ ไฮฟ์ เป็น “โรงแรมซาวน่า” สุดหรูที่ลูกค้าจะรู้สึกราวกับได้รับการโอบกอดอย่างอบอุ่นจากธรรมชาติที่อยู่รายล้อม ที่พักส่วนตัวขนาดกะทัดรัดนี้ประกอบไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนแบบอินฟินิตีกึ่งกลางแจ้ง ที่มาพร้อมกับวิวของแนวเทือกเขาทาเตยามะ ดีไซน์ของโรงแรมเป็นแบบร่วมสมัยทว่ากลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่โรงแรมตั้งอยู่

โครงสร้างทรงหกเหลี่ยมซึ่งเป็นที่มาของชื่อโรงแรมนั้นมีวัตถุประสงค์ในเชิงประโยชน์ใช้สอยและเพื่อความสวยงาม บางส่วนของอาคารอยู่ใต้พื้นดิน และถูกปิดทับด้วยดินและใบไม้ ช่วยทำให้ตัวอาคารเย็นในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว ภายในมีซาวน่าสไตล์ฟินแลนด์แบบส่วนตัวสองห้อง ห้องหนึ่งสำหรับผู้ใช้งานเป็นกลุ่ม และอีกห้องสำหรับผู้ใช้งานคนเดียว ภายในซาวน่ามีหน้าต่างแบบ “เปิดกว้าง” ที่สามารถชมวิวแบบพาโนรามาได้

จุดหมายปลายทางที่มุ่งเน้นด้านสุขภาวะที่ดีโดยเฉพาะนี้ประกอบด้วยห้องพักสามห้อง รองรับลูกค้าได้ 2-6 คน และรับเฉพาะผู้เข้าพักหนึ่งกลุ่มต่อครั้ง

โรงแรมระดับไฮเอนด์แห่งนี้ผสานบ่อน้ำพุร้อนแบบดั้งเดิมเข้ากับสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายในที่สะท้อนภาพความงามของโรงน้ำชาสมัยใหม่ มีคอลเลกชันงานศิลปะญี่ปุ่นร่วมสมัยจัดแสดงอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงด้านนอกอาคารตาม “ทางเดินศิลปะ” ที่ทอดเลียบแม่น้ำจินซูที่สวยงาม

การผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างความดั้งเดิมและความทันสมัยยังสามารถพบเห็นได้ในห้องชงชาสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นสไตล์ดั้งเดิมที่คุณสามารถสัมผัสกับพิธีชงชาได้ และอีกห้องหนึ่งเป็นการตีความแบบร่วมสมัยทำให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น การากุมีร้านอาหารสองร้าน ได้แก่ เทรซงนิเยร์ (Tresonnier) ที่เสิร์ฟอาหารสมัยใหม่แท้ๆ ในขณะที่ร้านรากุมิ (Rakumi) คุณสามารถเพลิดเพลินกับ “อาหารญี่ปุ่นสมัยใหม่” ในห้องแบบส่วนตัวได้ สปายากุโทโตริวใช้น้ำมันหอมระเหยที่คัดสรรจากท้องถิ่น และห้องสวีตหลายห้องยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาวะที่ดีติดตั้งไว้ในห้อง ผู้เข้าพักสามารถเลือกซื้อสินค้าที่สวยงามและมีสไตล์ซึ่งผลิตในท้องถิ่นได้ที่ร้านค้าของโรงแรม

สัมผัสประสบการณ์ “แกลมปิง” ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการแคมปิงที่หรูหรามากขึ้นในเต็นท์ทรงโดมสไตล์ฟิวเจอริสติกพร้อมกับวิวของอ่าวโทยามะและแนวเทือกเขาทาเตยามะ Imigre โรงแรมหรูในเมืองฮิมิ นำเสนอประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมนี้ในพื้นที่อันกว้างขวางของโรงแรม

โดมแกลมปิงของ Imigre มีให้เลือกสองแบบ แต่ละแบบมีสไตล์ที่โดดเด่นเฉพาะ โดม “Modern” มีการตกแต่งภายในแบบร่วมสมัยในโทนสีแบบโมโนโครม และ โดม “Natural” ตกแต่งด้วยไม้และโทนสีธรรมชาติที่อบอุ่น ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน คุณก็จะได้สัมผัสกับประสบการณ์แคมปิงในศตวรรษที่ 21 ที่แสนสะดวกสบาย นอกจากเตียง โซฟา ห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศ/เครื่องทำความร้อนแล้ว โดมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการทำบาร์บีคิว รวมถึงโต๊ะและเก้าอี้บนชานไม้ที่มีหลังคา โรงแรมยังมีวัตถุดิบสำหรับทำบาร์บีคิว เช่น เนื้อวัวฮิมิอันเลื่องชื่อให้บริการพร้อมกับวิวทะเลด้วย

เลโวเป็นโรงแรมที่เน้นเรื่องอาหารเป็นพิเศษ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาและชนบทที่ไร้การปรุงแต่งในโทงะ เมืองที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโทยามะ ร้านอาหารระดับดาวมิชลินเสิร์ฟเมนูเฉพาะของร้านที่ทำจากผักและสมุนไพรจากฟาร์มของเลโวซึ่งตั้งอยู่ติดกับร้าน ดินที่ใช้เพาะปลูกของที่นี่คิดค้นขึ้นจากมุมมองของเชฟมากกว่าเกษตรกร ซึ่งเลโวยกให้เป็นองค์ประกอบหลักของอาหารในภูมิภาคแนวอาว็อง-การ์ดนี้ ทางร้านยังได้รับเนื้อสัตว์ป่า เช่น เนื้อกวางและเนื้อหมูป่า มาจากนายพรานในท้องถิ่นโดยตรง ร้านนี้รับลูกค้าที่จองล่วงหน้าเท่านั้น และเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าที่ไม่ใช่แขกของโรงแรมด้วย

ที่พักสุดหรูของโรงแรมเลโวประกอบด้วยอาคารสไตล์บ้านชนบทสามหลัง แต่ละหลังมีห้องนอนหนึ่งห้อง ให้ความรู้สึกเป็นที่พักในหุบเขาแบบหรูหรา และมีการตกแต่งภายในเป็นแบบร่วมสมัยที่ใช้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งในสไตล์แอนทีกเก่าแก่