ศิลปะ งานฝีมือ และงานออกแบบในโทยามะ-1

ศิลปะ งานฝีมือ และงานออกแบบในโทยามะ

ในจังหวัดโทยามะ ความคิดสร้างสรรค์ที่หยั่งรากลึกในงานฝีมือยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน งานโลหะอันเป็นนวัตกรรมที่มีเมืองทากาโอกะเป็นศูนย์กลางนั้นดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าสี่ศตวรรษ และงานฝีมือจากโลหะเหล่านี้มีตั้งแต่เครื่องใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนาไปจนถึงเครื่องใช้ในบ้านแบบร่วมสมัย

เครื่องแก้วโทยามะที่มีต้นกำเนิดจากอุตสาหกรรมการผลิตยาของจังหวัดเมื่อราวสามร้อยปีก่อน และได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วโทยามะได้รับการออกแบบโดย เค็นโงะ คูมะ สถาปนิกชื่อดังระดับโลก และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการฟื้นฟูศิลปะชนิดนี้ เวิร์กช็อปต่างๆ ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับงานโลหะและเครื่องแก้วในมุมมองที่หลากหลาย

ที่ใจกลางเมืองโทยามะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะและการออกแบบประจำจังหวัดโทยามะ พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งนี้มีหลังคาเป็นแลนด์มาร์กสำคัญซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายรูป นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรีศิลปะอื่นๆ อีกหลายแห่ง ทำให้บริเวณใจกลางเมืองโทยามะกลายเป็น “ย่านศิลปะ” ขนาดย่อมที่เหมาะสำหรับการเที่ยวชม

คานายะ: แบรนด์ที่ต่อยอดงานฝีมือจากโลหะไปสู่รูปแบบร่วมสมัย

แบรนด์คานายะที่ตั้งอยู่ในเมืองทากาโอกะเป็นแบรนด์สินค้าตกแต่งภายในที่ผสมผสานงานฝีมือจากโลหะที่หลากหลายของพื้นที่เข้ากับงานออกแบบร่วมสมัย โดยมอบหมายให้นักออกแบบท้องถิ่นและจากทั่วประเทศออกแบบผลงานหลากหลายสไตล์ มีตั้งแต่งานที่เน้นประโยชน์ใช้สอยไปจนถึงงานสไตล์อาว็อง-การ์ดที่แปลกใหม่ จากนั้นผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะถูกผลิตขึ้นโดยช่างฝีมือท้องถิ่นภายใต้ทิศทางของแบรนด์คานายะ

ห้องจัดแสดงผลงานของแบรนด์คานายะตั้งอยู่ภายในตึกเก่าแก่ในย่านคานายะมาจิ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตงานโลหะมาเป็นเวลากว่าสี่ศตวรรษ ผลิตภัณฑ์ของที่นี่มีตั้งแต่ที่ใส่กระดาษทิชชูในห้องน้ำที่เน้นประโยชน์ใช้สอย โต๊ะข้างเตียงที่มีขาคล้ายแมงมุม และอื่นๆ อีกมากมาย ชิ้นงานทำตามสั่งที่มีขนาดใหญ่มีบริการจัดส่งไปยังต่างประเทศ ในขณะชิ้นงานขนาดเล็กบางชิ้นสามารถรอรับได้ในวันเดียวกัน “พื้นที่สัมผัสประสบการณ์” เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ลองผลิตชิ้นงานจากดีบุกให้เป็นภาชนะขนาดเล็กๆ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที

โนซากุ: จากเครื่องใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนาสู่เครื่องใช้ในบ้านสมัยใหม่

ผู้เชี่ยวชาญงานหล่อโลหะในเมืองทากาโอกะได้เริ่มต้นกิจการขึ้นในปี ค.ศ. 1916 ในฐานะช่างทำเครื่องใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนา ผ่านมากว่าร้อยปีโนซากุยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทท้องถิ่นที่ทุ่มเททำงานเพื่อพัฒนางานโลหะของทากาโอกะให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ณ พื้นที่ตั้งของบริษัทในปัจจุบันยังมีโรงงาน ร้านค้า พื้นที่จัดกิจกรรม และคาเฟ่สุดเก๋ คุณสามารถชมการทำโลหะอย่างใกล้ชิดและสามารถทดลองทำด้วยตนเองได้

ที่โนซากุแล็บ นักท่องเที่ยวสามารถลองทำที่วางตะเกียบจากดีบุกซึ่งมีลวดลายเป็นหนึ่งในสัตว์สิบสองชนิด กิจกรรมนี้ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และเหมาะสำหรับผู้ใหญ่และเด็กในวัยประถมขึ้นไป นอกจากนี้มีทัวร์ชมโรงงานขนาดใหญ่ของโนซากุสองแห่ง รวมถึงการจัดแสดงสินค้าตกแต่งภายในที่บริษัทมุ่งเน้นในปัจจุบัน เช่น ตะกร้าเหล็กดัดที่ทำจากดีบุกซึ่งเป็นหนึ่งในโลหะที่อ่อนที่สุดในโลก ด้วยคุณสมบัติของดีบุกนี้ทำให้สามารถดัดแปลงรูปร่างของตะกร้าได้ง่าย

โมเมนตัม แฟ็กทอรี โอริอิ (Momentum Factory Orii): งานโลหะทากาโอกะในสไตล์สีสันสดใส

โรงงานของโอริอิซึ่งตั้งอยู่ในทากาโอกะตะวันตกทำให้งานโลหะที่ขึ้นชื่อของที่นี่มีสีสันสดใสขึ้น ช่างฝีมือของที่นี่ใช้กระบวนการดั้งเดิมเพื่อสร้างสีบนโลหะโดยการควบคุมความร้อนและปฏิกริยาเคมี ไม่ใช่เพียงแค่การ “ระบายสี” ลงบนโลหะ นอกจากจะผลิตงานเชิงพาณิชย์และการสร้างสีบนพระพุทธรูปแล้ว ที่นี่ยังผลิตเครื่องใช้ในบ้านและเครื่องประดับแฟชั่นจากโลหะภายใต้แบรนด์ของตัวเอง เช่น แจกัน นาฬิกาติดผนัง และจิวเวลรี ผลงานเหล่านี้มีวางจำหน่ายในร้านค้ากึ่งแกลเลอรีของโอริอิในทากาโอกะ ผู้มาเยี่ยมชมโรงงานของโอริอิสามารถชมช่างฝีมือสร้างสีบนโลหะได้แบบสดๆ และทดลองสร้างสีบนที่รองแก้วหรือถาดได้ด้วยตนเอง

โอเตระ: ร้านค้าและคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสวนญี่ปุ่น

โอเตระผสมผสานร้านค้ากึ่งแกลเลอรีเข้ากับคาเฟ่ และยังคงบรรยากาศช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่มีการหล่อโลหะภายในพื้นที่ของร้าน หลังจากเลือกชมและซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นจิวเวลรี เครื่องประดับ และเครื่องใช้ในบ้านที่ทำขึ้นในท้องถิ่นแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและของหวานไปพร้อมกับการชมสวนญี่ปุ่นได้

เจ้าของร้านซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ห้าของเจ้าของผู้ก่อตั้งเป็นผู้จัดกิจกรรมในเวิร์กช็อปที่คุณสามารถทำเครื่องประดับขนาดเล็กและนำกลับบ้านได้ ผู้เข้าร่วมสามารถทำแหวน สร้อยคอ เครื่องประดับต่างๆ และพวงกุญแจ เป็นต้น กิจกรรมนี้ใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 60 นาที

ชิมาตานิโชริวโคโบ: เบื้องหลัง “ขันทิเบต (Singing Bowl)” ในศาสนาพุทธ

เวิร์กช็อปขนาดเล็กที่ดำเนินงานโดยครอบครัว เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ชมการทำโอริน หรือ “ขันทิเบต” จากทองเหลืองเพื่อใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนา เมื่อนำขันมาตีในลักษณะเดียวกับฆ้อง ขันนี้จะเปล่งเสียงใสดังก้องกังวานอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ยิ่ง “ขัน” โอรินลึกเท่าไร ก็จะยิ่งส่งเสียงทุ้มขึ้นเท่านั้น
ชิมาตานิโชริวเป็นหนึ่งในเวิร์กช็อปเพียงไม่กี่แห่งที่ทำโอรินด้วยมือ ซึ่งก่อตั้งกิจการขึ้นในพื้นที่แห่งนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1909 บริษัทจัดส่งโอรินให้กับวัดทั่วญี่ปุ่น และยังส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย
นอกจากการชมขั้นตอนการทำโอรินที่ต้องใช้ค้อนมากกว่าร้อยแบบแล้ว ผู้เยี่ยมชมยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมตกแต่งโลหะได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการสร้างลวดลายบนชิ้นงานโลหะโดยใช้เทคนิคการตอกแบบง่ายๆ โดยใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที

พิพิธภัณฑ์ศิลปะและการออกแบบประจำจังหวัดโทยามะ: พิพิธภัณฑ์ระดับโลกที่มีงานศิลปะจัดวางบนดาดฟ้า

พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ซึ่งรวบรวมงานศิลปะและการออกแบบเข้าไว้ด้วยกัน ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีประติมากรรมหมีขาวกลุ่มหนึ่งตั้งอยู่ และจากพิพิธภัณฑ์สามารถมองเห็นสวนสาธารณะคันซุยได้อีกด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่รู้จักจาก “ดาดฟ้าคำเลียนเสียงธรรมชาติ” ที่สร้างโดยกราฟิกดีไซเนอร์ ทากุ ซาโต สวนสาธารณะบนดาดฟ้าแห่งนี้มีงานศิลปะจัดวางตั้งกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ และเป็นพื้นที่เล่นสนุกสำหรับเด็กๆ และช่วยกระตุ้นความคิดของผู้ใหญ่ด้วย

คอลเลกชันงานศิลปะที่จัดแสดงแบบถาวรนั้นมีทั้งผลงานของศิลปินญี่ปุ่นและจากต่างประเทศ อาทิ ปาโบล ปิกัสโซ แจ็กสัน พอลล็อก และยาโยอิ คุซามะ นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ยังจัดนิทรรศการพิเศษเป็นประจำอีกด้วย คุณสามารถชมผลงานออกแบบผ่านสื่อต่างๆที่หลากหลาย รวมไปถึงการจัดแสดงเก้าอี้จากศตวรรษที่ 20 และคอลเลกชันโปสเตอร์รวมกว่า 13,000 ชิ้น โปสเตอร์ที่จัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งจากนิทรรศการพิเศษ และสามารถค้นหาโปสเตอร์อื่นๆได้ผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ สำหรับรูปแบบสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์มีการใช้กระจกจำนวนมาก ซึ่งทำให้สามารถมองออกไปเห็นสวนสาธารณะคันซุย และแนวเทือกเขาทาเตยามะที่อยู่ไกลออกไปได้

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วโทยามะ: สัญลักษณ์อันแวววาวของการฟื้นคืนความนิยมในแก้วของโทยามะ

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดโทยามะกับการแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านแก้ว แม้แต่รูปแบบสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์เองก็เป็นงานศิลปะเช่นกัน พิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วโทยามะใช้พื้นที่ทั้งหมดหกชั้นของอาคารคิราริ ซึ่งเป็นอาคารคอมเพล็กซ์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโทยามะ ออกแบบโดย เค็นโงะ คูมะ สถาปนิกเลื่องชื่อ พื้นผิวด้านนอกของอาคารทำจากแก้ว หินแกรนิต และอะลูมิเนียม ได้แรงบันดาลใจจากเทือกเขาทาเตยามะ

นิทรรศการถาวรจัดแสดงผลงานร่วมสมัยของทั้งศิลปินญี่ปุ่นและต่างประเทศ ในขณะที่ห้องแกลเลอรีและพื้นที่จัดแสดงที่มีขนาดเล็กลงมา เช่น ทางเดินศิลปะแก้ว จัดแสดงงานนิทรรศการโดยมีธีมต่างๆ และที่ชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์เป็นที่ตั้งของสวนศิลปะแก้วที่จัดแสดงงานศิลปะจัดวางขนาดใหญ่สีสันสดใส ออกแบบโดย เดล ชิฮูลี ศิลปินงานแก้วชาวสหรัฐฯ ผู้สร้างสรรค์ผลงานอันแปลกใหม่

สตูดิโอแก้วโทยามะ: ศูนย์กลางของแก้วโทยามะ

สตูดิโอแก้วโทยามะเป็นศูนย์กลางงานเครื่องแก้วในจังหวัดโทยามะ จัดกิจกรรมเชื่อมโยงแนวปฏิบัติเชิงศิลปะ อุตสาหกรรม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน สตูดิโอแห่งนี้ให้การสนับสนุนและฝึกฝนช่างแก้วท้องถิ่นโดยมีโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เป็นหัวเรือใหญ่ และส่งเสริมเครื่องแก้วโทยามะผ่านนิทรรศการที่จัดขึ้นในร้านค้ากึ่งแกลเลอรีภายในพื้นที่

ผู้เยี่ยมชมสตูดิโอแก้วโทยามะสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปที่จัดโดยผู้เชี่ยวชาญ และสามารถสร้างสรรค์ผลงานของตนเองได้ เช่น แก้วน้ำ หรือที่ทับกระดาษ ซึ่งคุณจะได้รับคำแนะนำในแต่ละขั้นตอน และเด็กๆ (วัยประถมขึ้นไป) สามารถเข้าร่วมได้

พิพิธภัณฑ์ซุยโบกุ โทยามะ: จัดแสดงผลงานภาพขาวดำสไตล์มินิมัล และโรงน้ำชาสไตล์ดั้งเดิม

พิพิธภัณฑ์ซุยโบกุตั้งอยู่ใจกลางเมืองโทยามะ มุ่งเน้นการจัดแสดงภาพเขียนประเภทซุยโบกุงะซึ่งเป็นงานศิลปะขาวดำ และมีชื่อเรียกเหมือนกับชื่อของพิพิธภัณฑ์ ภาพเขียนประกอบด้วยลายเส้นน้ำหมึกหนาสีดำซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน ศิลปะรูปแบบนี้เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นโดยเหล่านักบวชในพุทธศาสนานิกายเซ็นราวศตวรรษที่ 14 และถูกปรับให้เป็นรูปแบบ “ญี่ปุ่น” ศิลปินญี่ปุ่นยกย่องซุยโบกุงะในฐานะศิลปะที่ลดทอนองค์ประกอบต่างๆ ให้เหลือเพียงแก่นที่สำคัญ ภายในอาคารสไตล์ญี่ปุ่นของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการถาวรของคอลเลกชันภาพเขียนสำคัญในประวัติศาสตร์ซุยโบกุงะของญี่ปุ่น ซึ่งสไตล์ดังกล่าวได้รับความนิยมมาจนถึงสมัยโทกุงาวะ (ค.ศ. 1603-1867) นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษต่างๆอีกด้วย หลังจากชมภาพซุยโบกุงะที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทิวทัศน์ ภาพเหมือนบุคคล และสัตว์ต่างๆแล้ว ผู้เยี่ยมชมสามารถเพลิดเพลินกับการดื่มชาในโรงน้ำชาแบบดั้งเดิมของพิพิธภัณฑ์ได้อีกด้วย

ผู้ที่ดูหน้านี้ก็กำลังดูหน้าเหล่านี้อยู่เช่นกัน

เราใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ การเรียกดูต่อแสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา ดูนโยบายคุกกี้ของเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม