เดินป่าและปั่นจักรยาน 48 ชั่วโมงที่โทยามะ: ฉบับฤดูร้อน-1

เดินป่าและปั่นจักรยาน 48 ชั่วโมงที่โทยามะ: ฉบับฤดูร้อน

บทความนี้จะแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวจังหวัดโทยามะในฤดูร้อนของผู้เขียน

โทยามะเป็นจังหวัดที่สวยงามซึ่งถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติและภูเขาต่างๆ ในบรรดาสถานที่ต่างๆ ของโทยามะ เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ครั้งนี้ตามเราไม่ได้ไปเที่ยวลานสกีหรือกำแพงหิมะ แต่เราไปเที่ยวในฤดูร้อนที่ใบไม้เขียวขจีเพื่อหนีจากความร้อนของเมืองใหญ่ ครั้งนี้เราจะขอแนะนำทริปฤดูร้อน 2 วันที่จังหวัดโทยามะ ลองไปสัมผัสประสบการณ์แบบเดียวกันดูนะ

วันที่ 1: เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะคืออะไร?

ภูเขาทาเตยามะซึ่งมียอดเขาสูงถึง 3,015 เมตรนั้นเป็นส่วนหนึ่งเทือกเขาขนาดใหญ่ที่รถปกติไม่สามารถขับเข้าไปได้ หากต้องการชมความงดงามของภูเขานี้ คุณจะต้องใช้ยานพาหนะถึง 6 ประเภท เช่น รถเคเบิลคาร์ทาเตยามะ หรือรถบัสไฟฟ้าอุโมงค์คันเด็น

เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดโทยามะและจังหวัดนากาโนะซึ่งคุณสามารถชื่นชมวิวทิวทัศน์แบบต่างๆ ได้หากไปเที่ยวในฤดูร้อน หลังจากที่นั่งรถบัสผ่านน้ำตกใหญ่ยักษ์ และขึ้นกระเช้าลอยฟ้าข้ามภูเขาก็จะเข้าใกล้น้ำสีฟ้าของเขื่อนคุโรเบะมากยิ่งขึ้น

เขื่อนคุโรเบะ

ถ้าหากไปเที่ยวเช้าเย็นกลับ ผู้คนนิยมที่จะเดินทางไปยังเขื่อนคุโรเบะก่อน และกลับไปที่มุโระโดเพื่อเดินป่าที่บึงมิคุริกะอิเกะ เนื่องจากรถบัสรอบสุดท้ายจากมุโระโดออกตอน 16:30 ดังนั้นเราจึงออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังเขื่อนตั้งแต่เช้า และแวะถ่ายรูประหว่างทางที่จุดชมวิวไดคันโบ และสถานที่อื่นๆ

เขื่อนคุโรเบะเป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีความสูงถึง 186 เมตร ถึงแม้ว่าตอนแรกจะไม่รู้ตัวว่าอยู่ด้านบนของเขื่อน เพราะว่าตอนที่ออกมาจากสถานีรถเคเบิลคาร์ ดูเหมือนสะพานในตอนแรก แต่จริงๆ แล้วเราอยู่ด้านบนของเขื่อน เราได้ยินเสียงน้ำไหลแรงมากทั้ง ๆ ที่ยังมองไม่เห็น หลังจากนั้นก็หันไปเห็นกระแสน้ำขนาดมหึมาที่ปล่อยน้ำออกมาถึง 10 ตันต่อวินาที เขื่อนนี้มีความแตกต่างระหว่างสิ่งก่อสร้างโดยมนุษย์และภูเขาสีเขียวที่เห็นอยู่ไกลๆ เป็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจมาก

ถึงแม้ว่าจะต้องออกแรงในการสำรวจเขื่อนเล็กน้อย แต่คุณสามารถเดินไปชมหอสังเกตการณ์และจุดชมวิวต่างๆ ได้ ก่อนที่จะไปเดินป่าที่มุโรโด เราแวะเติมพลังด้วย "แกงกะหรี่เขื่อนคุโรเบะ" เมนูยอดนิยมของคุโรเบะเรสท์เฮ้าส์ เมนูแกงกะหรี่เขื่อนนี้เป็นรูปทรงของเขื่อน โดยใช้ข้าวทำเป็นตัวเขื่อน และราดแกงเป็นน้ำ

เดินป่ารอบๆ บึงมิคุริกะอิเกะ

เราเดินทางไปยังมุโรโดจากเขื่อนคุโรเบะด้วยรถเคเบิลคาร์ กระเช้าลอยฟ้า และรถบัสโทรลลี่ (รถบัสพลังงานไฟฟ้า) ขามาเขื่อนคุโรเบะเราเดินทางตามป้ายสีเขียว แต่ขากลับจะดูป้ายสีน้ำเงินซึ่งไปทางฝั่งโทยามะ เราเดินประมาณ 15 นาทีจากป้ายรถมุโรโดไปยังบึงมิคุริกะอิเกะ

ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ภูเขาสูงใหญ่ที่อยู่รอบๆ จะสะท้อนบนบึงสีน้ำเงินอันสวยงามนี้ คุณสามารถชมทิวทัศน์ที่น่าประทับใจนี้ได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น เนื่องจากบึงจะถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งในช่วงเวลานอกเหนือจากนี้ คุณสามารถชื่นชมการผสมผสานอันสวยงามของต้นไม้เขียวขจีและหิมะได้ขึ้นอยู่กับช่วงที่ไปเยือน ทางเดินรอบบึงยาวถึง 630 เมตร เหมาะเป็นเส้นทางเดินป่าในฤดูร้อน และยังมีเส้นทางเดินป่าที่เชื่อมต่อไปยังทิศทางต่าง ๆ อีกด้วย ถึงแม้ว่าในฤดูร้อนจะมีผู้คนมากมายในบริเวณใกล้ ๆ บึงก็ตาม แต่ก็มีพื้นที่เพียงพอให้คุณสามารถสนุกได้ คุณสามารถเดินไปสำรวจเส้นทางที่เหลือได้อย่างง่าย ๆ และดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ของภูเขาโดยไม่ต้องพบเจอกับผู้คน

Locomotion Coffee & Bed: เกสต์เฮาส์ใกล้สถานีทาเตยามะ

หลังจากเดินทางข้ามเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นเต็ม ๆ 1 วัน ก็สามารถเข้าพักที่ที่พักใกล้สถานีทาเตยามะได้เลย Locomotion Coffee & Bed เป็นหนึ่งในที่พักจำนวนไม่มากที่ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางแอลป์เป็นอย่างมาก ที่นี่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มีบรรยากาศอบอุ่นและความทันสมัยยิ่งขึ้น

ที่พักแห่งนี้เป็นเกสต์เฮาส์ นอกจากจะมีห้องพักรวมแยกระหว่างชายหญิง 2 ห้องแล้ว ยังมีห้องพักส่วนตัวที่สามารถเข้าพักได้สูงสุด 3 คนอีก 2 ห้องอีกด้วย ที่นี่มีทั้งห้องแบบญี่ปุ่นซึ่งมีเสื่อทาทามิและฟุตง ฟูกนอนพื้น และห้องสไตล์ตะวันตกซึ่งมีเตียงนอนพร้อมฟูกและโซฟา ครั้งนี้ผู้เขียนเข้าพักห้องสไตล์ตะวันตก นอนพักผ่อนชมภูเขาที่เพิ่งเดินทางไปเที่ยวมาบนโซฟา

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เป็นแบบใช้ร่วมกัน เช่น อ่างอาบน้ำอุ่นแบบรวม หรือห้องอาบน้ำส่วนตัวที่ชั้นล่าง นอกจากนี้ ยังมีบาร์และคาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ ซึ่งเสิร์ฟเมนูอาหารน่ารักๆ ขนมหวาน และเครื่องดื่มอย่างลาเต้ชาเขียวอีกด้วย เราแวะมาทานอาหารเช้าที่นี่ด้วย มีขนมปังและข้าวให้เลือกหลายแบบเลย

วันที่ 2: ขี่จักรยานไปยังสถานีริมทางอามาฮาราชิ

เส้นทางปั่นจักรยานอ่าวโทยามะเป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการสำรวจสถานที่และอาหารท้องถิ่นซึ่งไม่สามารถสัมผัสได้หากเดินทางด้วยรถไฟหรือรถยนต์ นี่คือแผนเที่ยวโทยามะวันที่ 2 ของผู้เขียน

เส้นทางนี้มีความยาวประมาณ 102 กิโลเมตร ถ้าหากคุณเป็นนักปั่นจักรยานที่มีประสบการณ์ก็จะใช้เวลาประมาณ 8.5 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ยังมีเส้นทางสั้นๆ อยู่หลายเส้นทางที่คุณสามารถแวะสำรวจพื้นที่ได้อย่างสบาย ๆ ในครั้งนี้ผู้เขียนปั่นจักรยานตามเส้นทางแฟมิลี่ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความยาวไปกลับ 16 กิโลเมตร เราไปเช่าจักรยานเสือภูเขาไฟฟ้าที่ศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประมงเมืองฮิมิและมุ่งหน้าไปยังสถานีริมทางอามาฮาราชิตามที่ถูกแนะนำไว้

เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางราบทำให้ปั่นจักรยานไฟฟ้าได้อย่างสบายมาก สถานที่แรกที่ผู้เขียนแวะคือชายฝั่งชิมะโอะ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสคุณจะมองเห็นเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่เราไปเดินป่ากันเมื่อวานได้จากไกลๆ

หลังจากนั้นเราก็เดินทางมาถึงสถานีริมถนนอามาฮาราชิ และแวะพักทานซาราโตกาคูลเลอร์และไอศครีมเย็นชื่นใจ ซาราโตกาคูลเลอร์ทำจากเยลลี่น้ำเชื่อมบลูฮาวายและจินเจอร์เอล การไล่เฉดสีของเครื่องดื่มนี้แสดงถึงชายฝั่งทะเลอันสวยงามที่อยู่ตรงหน้าเรา เนื่องจากสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ของโทยามะได้ที่จุดพักผ่อน เราจะซื้ออุด้งฮิมิท้องถิ่นกลับไปทำกินที่บ้าน

วันแสนสดชื่นในฤดูร้อนที่โทยามะ

เราได้พักผ่อนสบาย ๆ และหนีจากความร้อนและความแออัดของโตเกียวผ่านทริปเที่ยวโทยามะในฤดูร้อนครั้งนี้ นอกจากนี้ยังได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติและลมทะเลอันสดชื่นอีกด้วย การเดินทางไปยังสถานีโทยามะใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงจากโตเกียว และ 2 ชั่วโมงครึ่งจากโอซาก้า ทำให้เหมาะเป็นสถานที่หนีร้อนซึ่งสามารถเดินทางไปได้ง่ายกว่าที่คิด

ถึงแม้ว่าครั้งนี้เราจะได้ไปเที่ยวสำรวจโทยามะแค่ 2 วันก็ตาม แต่ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย ปลดปล่อยความเป็นนักผจญภัยในตัวคุณ มาค้นพบเสน่ห์ของโทยามะด้วยตัวคุณเอง

"บทความนี้แปลจากบทความที่เขียนโดยนักเขียนชาวอังกฤษ"

ผู้ที่ดูหน้านี้ก็กำลังดูหน้าเหล่านี้อยู่เช่นกัน

เราใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ การเรียกดูต่อแสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา ดูนโยบายคุกกี้ของเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม