โทยามะในฤดูร้อนนี่แหละยิ่งอยากให้มา! สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในฤดูร้อนของจังหวัดโทยามะ
ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนอันแสนงดงามที่น่าพิศวง
เทือกเขาทาเตยามะขึ้นชื่อเรื่องความงดงามภายใต้บรรยากาศอันชวนพิศวง และที่มุโรโดะคุณจะได้ชมทิวทัศน์ทะเลสาบมิคุริงะอิเคะและวิวหุบเขาอันตระการตา ที่นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกมาเที่ยวชมและสัมผัสความงดงามของธรรมชาติด้วยตนเอง เสน่ห์ของเส้นทางที่มุ่งสู่มุโรโดะนี้เป็นที่ร่ำลือและเป็นเส้นทางแห่งการผจญภัย จึงขอแนะนำวิธีการเดินทางและจุดพักท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพื่อให้การเดินทางสู่เทือกเขาทาเตยามะราบรื่นด้วยดี
[นต1] เอาล่ะ! ถ้าพร้อมออกเดินทางแล้ว ก็ไปกันเลย!
สถานีรถไฟทาเตยามะ : เริ่มต้นการเดินทางก็ต้องเริ่มจากจุดนี้เลย
นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีการเดินทางเพื่อไปยังมุโรโดะ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่จุดสูงสุดของเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ!
เริ่มจากสถานีทาเตยามะเราจะขึ้นเคเบิ้ลคาร์ทาเตยามะกัน
ตั๋วรถไฟสามารถจองล่วงหน้าได้ หรือซื้อตั๋วที่สถานีเลยก็ได้เช่นกัน
สถานีรถไฟทาเตยามะถูกรายล้อมด้วยภูเขา แวดรอบด้วยอากาศอันบริสุทธิ์ ส่งผลให้มีความสงบสุขทั้งกายและใจ
พาขึ้นพาหนะที่ไม่ซ้ำใคร
อีกหนึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะได้ใช้บริการบนเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ นั่นก็คือ “ทาเตยามะเคเบิ้ลคาร์” ที่แต่เดิมเป็นเคยถูกใช้ในการขนอุปกรณ์ก่อสร้างเขื่อนคุโรเบะ ที่ตัวรถจึงมีรถกระบะใส่ของหน้าตาไม่เหมือนใครพ่วงติดอยู่ด้วย
ปัจจุบันเคเบิ้ลคาร์ได้ทำหน้าที่เป็นพาหนะนำพานักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะและได้มอบความสุขให้แก่ผู้คนมากมาย
เมื่อเราขึ้นเคเบิ้ลคาร์กันแล้ว เราจะมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไปนั่นคือ “บิโจไดระ” สถานีทาเตยามะห่างจากบิโจไดระ 1.3 กม. ระดับความสูงต่างกัน 500 ม. นั่งเคเบิ้ลคาร์อึดใจเดียวเพียง 7 นาทีก็ถึง
วิวริมหน้าต่างก็สวยประทับใจ
จะเลือกที่นั่งตรงไหนก็วิวสวยทุกที่นั่ง ขอแนะนำว่าก่อนขึ้นรถให้วางแผนในใจก่อนว่า อยากได้แบบไหน จะได้เลือกที่นั่งได้ตรงใจ
หากต้องการชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามแนะนำให้นั่งด้านหน้า ซึ่งผู้คนมักจะเล็งตำแหน่งนี้เช่นกัน ดังนั้นควรต้องรีบไปต่อคิว
แต่หากสนใจที่ตัวรถเคเบิ้ลแล้วล่ะก็ แนะนำให้เลือกที่นั่งท้ายสุด เราจะได้ชมรถกระบะพ่วงวิ่งแล่นผ่านอุโมงค์ได้อย่างเพลิดเพลิน
วิวจากหน้าต่างรถมีไฮไลท์น่าสนใจอีกที่หนึ่งคือป่าแท่งหิน ศิลปะที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ อันเกิดจากลาวาที่ปะทุออกมาจากภูเขาไฟทาเตยามะและหินเหล่านี้ได้กระเทาะตัวแตกออกเป็นรูปคล้ายทรงกระบอกหกเหลี่ยม
ถ้าชอบถ่ายภาพล่ะก็ มุมที่ดีที่สุดต้องอยู่หน้าสุดหรือหลังสุด แต่ไม่ว่าจะนั่งตรงไหน ทุกคนก็จะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ต้นไม้อันร่มรื่นสวยงาม และวิวบ้านเรือนกับสถานีรถไฟที่ค่อยๆ ห่างออกไปจนลับตา
เส้นทางที่เต็มไปด้วยไฮไลท์
ต่อไปนี้เราต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถบัส “ทาเตยามะโคเก็น” ที่จะพาเราเดินทางข้ามจากบิโจไดระถึงมุโรโดะ และสถานีปลายทางก็คือ “มุโรโดะเทอมินัล”
คนขับก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ดูชิลมากแบบนี้ต่อให้ขับผ่านหุบเขาสักกี่โค้งก็น่าจะปลอดภัยไว้ใจได้
มีใครเคยคิดจริงจังบ้างไหมว่า “ต้องเลือกนั่งตรงไหนดี ถึงจะได้ชมวิวที่สวยที่สุด”
หากเป็นวิวเทือกเขาอันตระการตาที่ทอดยาวให้เห็นได้ทั้งด้านซ้ายและขวา ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนก็ดีแน่นอน แต่หากเป็นเส้นทางที่มุ่งสู่มุโรโดะแล้วล่ะก็ ต้องเลือกนั่งที่นั่งด้านซ้ายถึงจะดี เพราะไฮไลท์อยู่ตรงนี้ พอรถวิ่งออกไปสักครู่นึง ที่นั่งทางซ้ายมือจะมองเห็นต้นสนทาเตยามะขนาดยักษ์ “ต้นสนเซนโด” เลยไปอีกหน่อยจะได้พบกับน้ำตกโชเมียว ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นมีความสูงถึง 350 เมตร ใครกลัวไม่ได้เห็นน้ำตกก็ไม่ต้องกังวล เพราะพี่คนขับจะหยุดรถให้เวลาชมน้ำตกอยู่ครู่นึง
นั่งรถบัสจากบิโจไดระถึงมุโรโดะเทอมินัลจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที ซึ่งช่วงนี้รถจะขับผ่านทิวทัศน์อันงดงามตราตรึงใจที่ควรค่าแก่การนั่งชม แต่หากต้องการเก็บแรงเอาไว้เดินป่าในจุดท่องเที่ยวถัดไปแล้วล่ะก็ ขอให้รีบพักผ่อนให้เต็มอิ่มนะคะ !
มุโรโดะเทอมินัล
พอลงจากรถบัสจะได้พบกับบรรยากาศของดินแดนอันลึกลับน่าอัศจรรย์
ลมเย็นจะพัดปะทะใบหน้า หญ้าเขียวขจีบนหุบเขา ดินแดนแห่งนี้จึงมีแต่ความสดชื่นแจ่มใส เส้นทางเดินเท้าจากมุโรโดะเทอมินัลเดินประมาณ 10 นาทีจะพบกับสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำมุโรโดะอยู่ที่นี่ นั่นคือ “ทะเลสาบมิคุริงะอิเคะ” ทะเลสาบสีน้ำเงินอันโดดเด่น จุดที่เรายืนอยู่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เมื่อได้เห็นภาพทะเลสาบมิคุริงะอิเคะสีน้ำเงินอยู่คู่กับเทือกเขาทาเตยามะตั้งตระหง่านอยู่ช่างน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นภาพที่น่าตื้นตันใจขนาดที่อยากชมภาพตรงหน้านี้ต่อไปอีกนานเท่านาน
ถึงตรงนี้ แล้วด้านข้างนี้คือ..? ใช่แล้ว นี่คือ หุบเหวนรก หรือจิโกกุดานิ! สำหรับจังหวัดโทยามะแล้วสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อความศรัทธาของทาเตยามะที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีต ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ยังคงพ่นก๊าซออกมาอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศโดยรอบจึงแตกต่างจากทิวทัศน์อันเขียวขจีของมุโรโดะโดยสิ้นเชิง ที่แห่งนี้ตลบอบอวลไปด้วยไอน้ำและกลิ่นกำมะถันราวกับอยู่ในฉากหนังลี้ลับก็ไม่ปาน
หากได้มาท่องเที่ยวเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ ก็ต้องมาชมธรรมชาติเส้นทางนี้เลยค่ะ ขอแนะนำ!
น้ำตก ถ้ำ และสะพานที่หลบซ่อนอยู่
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดโทยามะ ที่ๆ สามารถหลบซ่อนตัวจากผู้คน แต่หากได้มาแล้วจะรู้สึกผ่อนคลายไปกับกลิ่นและเสียงสัมผัสของธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาเซนกังเค
เซนกังเคอยู่ติดกับวัดโออิวะซังนิตเซคิจิ สามารถแวะพักชมบรรยากาศที่นี่ได้ระหว่างเดินทางไปที่วัด
เมื่อเดินขึ้นเนินที่ทอดยาวไปในใจกลางป่า พลันความสงบใจก็เกิดขึ้นมาพร้อมกับความเขียวชอุ่มที่ล้อมรอบตัวเรา ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไร สีเขียวของต้นไม้ก็ยิ่งเข้มขึ้นเท่านั้น เมื่อเงื่อหูฟังให้ดี จะได้ยินเสียงลำธารน้ำไหลอยู่ใกล้ๆ เดินลึกเข้าไปอีกสักครู่ก็จะพบกับน้ำตกขนาดเล็ก เมื่อขึ้นไปด้านบนแล้วมองลงมาจะเห็นสายน้ำแม่น้ำโออิวะกาวะอันงดงามมองแล้วก็ตราตรึงใจ เราใช้เวลาผ่อนคลายจิตใจไปกับธรรมชาติอันงดงามได้ที่นี่
และหากเดินลึกเข้าไปอีกนิด จะเห็นทิวทัศน์ของสะพานที่สวยสะกดใจได้ราวกับภาพวาด! เมื่อยิ่งได้ลองมองทอดสายตาโดยรอบจะสัมผัสถึงบรรยากาศอันลึกลับที่สง่างาม และมุมมองจากสะพานก็ช่างรื่นรมย์
อยากให้ลองขึ้นไปด้านบนและเพลิดเพลินชมวิวน้ำตก ลำธาร สะพาน และบรรดาหินมอสสีเขียวอ่อนสดชื่นที่แวดล้อม ทิวทัศน์อันงดงามตระการตาต้องทำให้คุณเพลินตาเพลินใจได้อย่างแน่นอน
พักสักครู่ก่อนออกเดินทางต่อไป
เส้นทางที่ผ่านมาทั้งขึ้นเนิน ทั้งเดินลัดเลาะตามทาง แบบนี้ก็น่าจะเหนื่อยกันบ้างแล้ว แต่ช่วงเวลาแบบนี้ที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาช่างมีความสุขจนทำให้อยากกลับมาอีกหลายๆ ครั้งเลยใช่ไหมคะ!
หากได้มาในฤดูอื่นๆ อีก ก็จะพบกับความงดงามของธรรมชาติที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม อยากแนะนำให้ทุกคนได้มาเที่ยวชมความงามของสถานที่แห่งนี้ในฤดูต่างๆ ให้ได้เลยค่ะ