รากแห่ง “ความเชื่อทางศาสนาทาเตยามะ หรือทาเตยามะชิงโค” ที่หยั่งลึกลงในโทยามะ-1

รากแห่ง “ความเชื่อทางศาสนาทาเตยามะ หรือทาเตยามะชิงโค” ที่หยั่งลึกลงในโทยามะ

เมืองทาเตยามะเป็นดินแดนอันศักสิทธิ์ตั้งแต่สมัยก่อน แม้ในปัจจุบันก็ยังมีผู้คนมากมายเดินทางเข้ามายัง ภูเขา “ทาเตยามะ” 1 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น ทริปนี้เราจะพาไปชมความงดงามของทิวทัศน์ และมาเรียนรู้หลักความเชื่อของทาเตยามะชิงโคกันค่ะ!
 

อธิษฐานบุญเพื่อความปลอดภัยที่ศาลเจ้าโอยามะ

ศาลเจ้าโอยามะอยู่ในภูเขาทาเตยามะ 1 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น แต่แท้จริงแล้วจุดเด่นคือ ศาลเจ้าโอยามะแห่งนี้ประกอบไปด้วยศาลเจ้าทั้งหมด 3 แห่งคือ ศาลหลักบนยอดเขาโอยามะ มิเนะฮงจะ , ศาลกลาง อะชิคุระชูกูคิกังเด็ง และศาลหน้า อิวาคุระมาเอะดาเทะฉะดัง ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับตำนานที่ถูกเล่าขานผ่านภาพมันดาลาทาเตยามะและความเชื่อทาเตยามะชิงโคที่มีการบูชานับถือเทพเจ้าแห่งภูเขา

ทาเตยามะชิงโค” จะมีความเชื่อมโยงผสมผสานกันระหว่างการบูชานับถือธรรมชาติ ศานาชินโต และศาสนาพุทธ ความเชื่อหลักๆ เป็นเรื่องของตำนานการเปิดภูเขาทาเตยามะ, เรื่องนรกที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับลักษณะภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของที่แห่งนี้ และเป็นความศรัทธาต่อท้าวสักกเทวราช แต่เดิมนั้นนรกต้องอยู่ใต้ดิน สวรรค์ต้องอยู่เหนือฟ้า แต่ที่ทาเตยามะถือเป็น “ดินแดนที่นรกและสวรรค์อยู่ร่วมกัน” และ “เซ็นโจโตะไฮ” เป็นพิธีกรรมที่มีความเชื่อว่าสามารถช่วยคนทำบาปขึ้นมาจากนรก เหมือนการตายแล้วเกิดใหม่ได้ด้วยการปีนเขาทาเตยามะแห่งนี้ ในสมัยก่อนผู้หญิงถูกห้ามขึ้นเขาทาเตยามะ จึงมีการจัดพิธีกรรม “นุโนะบาชิคันโจวเอะ” ซึ่งเชื่อว่าสามารถช่วยผู้หญิงขึ้นมาจากนรกได้

ข้อมูลท่องเที่ยวครั้งนี้อาจจะยากบ้างดังนั้นจึงขอแนะนำให้เดินชมศาลเจ้าพร้อมกับไกด์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้ข้อมูลที่ละเอียดยิ่งขึ้น และในครั้งนี้เรามีไกด์กิตติมศักดิ์ที่บ้านเกิดอยู่ที่ศาลกลาง อะชิคุระชูกูคิกังเด็งมาช่วยนำทางให้เป็นพิเศษค่ะ
พี่ไกด์เป็นผู้ที่ความคุ้นเคยกับทาเตยามะชิงโคเป็นอย่างดี และจะมาช่วยอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายๆ อีกทั้งยังช่วยให้ทริปของเราน่าสนใจขึ้นอีกมากเลยทีเดียว
ตอนนี้กำลังเดินมาต้อนรับพวกเรา โดยสวมชุด “จูโกะ” เป็นชุดสำหรับไกด์นำเที่ยวทาเตยามะโดยเฉพาะ
นอกจากเสื้อผ้าจะแตกต่างแล้ว แถมยังพกมีดพร้าไว้ที่เอวเพื่อป้องกันโจรและสัตว์ต่างๆ เป็นชุดที่น่าสนใจจริงๆ

พี่ไกด์ช่วยสอนวิธีปฏิบัติในการเข้าไปสักการะ

เริ่มจากที่หน้าประตูโทริอิทางเข้าศาลเจ้า ให้โค้งคำนับ 1 ครั้งเป็นการส่งสัญญาณ “ขออนุญาตเข้าไปด้านใน” และเราจะต้องล้างมือและบ้วนน้ำ
ที่โชซุ เป็นจุดให้ผู้มาสักการะได้ชำระล้างความสกปรก
น้ำที่โชซุแห่งนี้มาจากตาน้ำในหุบเขา ที่ทั้งใสสะอาดและเย็นสดชื่น

แนะนำทางเดินเข้าศาลเจ้าที่ถูกต้อง
เพราะทางเดินตรงกลางเป็นทางของเทพเจ้า ดังนั้นพวกเราผู้เข้ามาสักการะจะต้องอ้อมไปทางซ้ายหรือขวาของประตูโอริอิเพื่อเข้าไปด้านใน

มาถึงบริเวณหน้าศาลเจ้า วิธีการสักการะคือ เริ่มจากหยอดเงินและ “โค้งคำนับ 2 ครั้ง ปรบมือ 2 ครั้ง และโค้งคำนับอีก 1 ครั้ง”
แล้วอธิษฐานถึงเทพเจ้าขอพรให้เดินทางไปกลับทาเตมายะปลอดภัย
 

ต่อไปคือ “พิพิธภัณฑ์ทาเตยามะ” จังหวัดโทยามะ ที่นี่มีข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติและความเชื่อทางด้านศาสนาทาเตยามะหรือทาเตยามะชิงโคให้เราได้ศึกษา

อาคารหลักคือ “อาคารจัดแสดง” มี 3 ชั้น ในแต่ละชั้นมีการจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติและทาเตยามะชิงโค ฯลฯ

ห้องชั้น 3 บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และการกำเนิดของธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับความเชื่อ โดยวิเคราะห์จากลักษณะภูมิประเทศและธรรมชาติที่ทาเตยามะในฐานะที่เป็น “สถานที่แห่งวิถีชีวิต” และเป็น “สถานที่แห่งศรัทธา” จนกลายเป็นดินแดนแห่งความเชื่อความศรัทธาแห่งทาเตยามะชิงโค

ในห้องชั้น 2 เป็นส่วนจัดแสดงเอกสารที่เกี่ยวกับทาเตยามะชิงโค
มีเรื่องราวของการเปิดภูเขาทาเตยามะ แดนนรกทาเตยามะ พิธีกรรมช่วยผู้หญิงจากนรก ฯลฯ ซึ่งเป็นหลักความเชื่อของทาเตยามะชิงโค ยังมีการจัดแสดงวิถีชีวิตของผู้คนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อนี้
และนอกจากนี้ก็มีการจัดแสดงภาพวาดมันดาลาทาเตยามะอีกด้วย

ภาพวาดมันดาลาทาเตยามะถ่ายทอดเรื่องราววิถีความเชื่อของทาเตยามะชิงโคให้เข้าใจได้ง่ายและเป็นรูปธรรม พระสงฆ์แห่งศาลเจ้าอาชิคุระก็ใช้ภาพวาดนี้ในการเผยแผ่ “ความเชื่อทาเตยามะชิงโค” และใช้เป็นเครื่องมือในการสืบทอดพิธีกรรม “เซ็นโจโตะไฮ” ซึ่งภาพวาดมันดาลาทาเตยามะเป็นภาพทิวทัศน์ของเส้นทางแสวงบุญที่ใช้ประกอบพิธีกรรมเซ็นโจโตะไฮ โดยเริ่มจากศาลเจ้าอิวาคุระ ผ่านศาลเจ้าอาชิคุระ จนถึงซันซัง หรือ 3 ภูเขาแห่งทาเตยามะอันประกอบด้วย “โอยามะ” เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโอยามะศาลหลัก,  “โจโดะซัง” สถานที่ที่พระอมิตาภพุทธะเคยเสด็จมา และ “เบ็ตซัง” สถานที่ที่ท้าวสักกเทวราชเคยประทับอยู่ นอกจากนี้ยังมีภาพนรก สวรรค์ ตำนานการเปิดภูเขาทาเตยามะและพิธีกรรม “นุโนะบาชิคันโจวเอะ” เป็นต้น
หากสนใจก็ขอเชิญใช้เวลาศึกษาเรียนรู้ได้เต็มที่เลยนะคะ
 

บันไดของอาคารแห่งนี้วนเป็นก้นหอย บวกกับผนังสีขาวมีความสูงถึง 22 เมตร จึงให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ๆ กับกำแพงหิมะเลยค่ะ

อาคารแห่งนี้ช่วยให้เราได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับทาเตยามะชิงโค ทั้งจากภาพวาดมันดาลาและการจัดแสดงต่างๆ ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อทาเตยามะชิงโคมากขึ้นแล้ว

 

ต่อไปเราจะไปยังอาคาร “โยโบคัง” กันค่ะ เรื่องราวของธรรมชาติป่าเขาและทาเตยามะชิงโคได้ถูกนำเสนอเป็นอนิเมชั่นและรูปภาพผ่านจอฉายภาพขนาดใหญ่ 3 จอที่ท่านสามารถรับชมได้อย่างสมจริงที่นี่ จุดเริ่มต้นของความเชื่อและประวัติความเป็นมานั้นเมื่อรับชมผ่านจอภาพแบบนี้ก็จะยิ่งทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น มีเสียงบรรยายเป็นภาษาอังกฤษให้รับฟัง ไม่ต้องกังวลที่จะพลาดเนื้อหาสำคัญเลยค่ะ !
อีกทั้งเป็นการนั่งชมบนเสื่อทาทามิก็ให้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมได้ดีทีเดียว
ตัวอาคารได้ถูกออกแบบให้มีลักษณะพิเศษ โดยในตอนท้ายจอภาพทั้ง 3 จะถูกยกเปิดขึ้น ภาพตรงหน้าจะปรากฏให้เห็นเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างออกไป ในวันที่อากาศแจ่มใสก็จะมองเห็นวิวเทือกเขาทาเตยามะได้ด้วย

ต่อไปเป็นจุดสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์ เราจะไปกันที่ “มันดาลายูเอ็น” ! ที่นี่เราจะได้ทดลองประสบการณ์จากเนื้อหาของภาพมันดาลาอันน่าพิศวง
 

มาสัมผัสประสบการณ์จากภาพมันดาลาทาเตยามะกัน !

ที่ “พิพิธภัณฑ์ทาเตยาะ” จังหวัดโทยามะ มีโซนที่เรียกว่า “มันดาลายูเอ็น” เป็นส่วนที่ให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองประสบการณ์ในโลกของภาพมันดาลาทาเตยามะ
มันดาลายูเอ็นแบ่งพื้นที่เป็น 4 ดินแดน คือ “จิไค (นรกโลก)” ดินแดนโลกแห่งนรก, “ยูโนะมิจิ (เส้นทางแห่งแสงสว่าง)” เป็นเส้นทางแห่งการบำเพ็ญตนของทาเตยามะ, “เทงไค (เทวโลก)” ดินแดนสวรรค์ ดินแดนบริสุทธิ์ของทาเตยามะ และ “ยามิโนะมิจิ (เส้นทางแห่งความมืด)” เป็นเส้นทางแห่งพิธีกรรม “นุโนะบาชิคันโจวเอะ”

เราจะเดินทางไปยังแต่ละดินแดนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่จะช่วยให้เราเข้าใจและเข้าถึงความเชื่อทาเตยามะชิงโคได้โดยละเอียดยิ่งขึ้น

มีการลองฟังเสียงร้องของปีศาจ, ได้เห็นภูเขาเข็มอันแหลมคม, เดินข้ามสะพาน, เดินชมแดนสวรรค์ต่างๆ ,  ประสบการณ์การลอดอุโมงค์อันมืดมิดแล้วกลับมายังโลกนี้ (โลกแห่งความเป็นจริง) เมื่อได้ลองสัมผัสแล้วก็จะเข้าใจแก่นแท้ของทาเตยามะชิงโค ที่คุณอาจรู้สึกว่าน่าเคารพและอาจจุดประกายให้คุณสนใจเรียนรู้ทาเตยามะชิงโคอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

หลังจากที่เดินทางผ่านดินแดนทั้ง 4 นี้แล้ว
รู้สึกได้เลยว่า การที่ได้เข้าไปอุโมงที่เรียกว่า  “ยามิโนะมิจิ” แล้วกลับออกมายังโลกเดิม นับเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจอย่างยิ่งค่ะ
จึงอยากเชิญชวนให้ลองมาสัมผัสด้วยตัวของคุณเองนะคะ
 

ย้อนรอยอาหารในอดีต

ประมาณ 250 ปีก่อน มีการเปิดชุคุโบหรือที่พักในวัดเพื่อใช้สำหรับทำหน้าที่เป็นวัด ที่พักอาศัย รวมถึงเป็นเกสเฮาส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการเผยแผ่แนวคิดความเชื่อทาเตยามะชิงโค ซึ่งปัจจุบันที่เรือนรับประทานอาหาร “มันดาลาโชคุโด” ผู้ที่มาเยือนชุโบแห่งนี้ก็จะได้รับประทาน“โกเซ็น” หรืออาหารชุดที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมเหมือนกับที่เคยเสิร์ฟในสมัยอดีต อาหารหลากชนิดจะถูกจัดเรียงรายบนโต๊ะ เมนูหลักคืออาหารมังสวิรัตที่นำผักป่าที่ปลูกบริเวณรอบๆ ศาลเจ้าอาชิคุระมาใช้เป็นวัตถุดิบ อาจเป็นของที่ไม่เคยทานมาก่อนก็ได้ ซึ่งอยากให้มาลองทานดูสักครั้ง รับรองเลยว่าอร่อยทุกเมนูจนทานได้เรื่อยๆ ที่ต้องแนะนำเลยก็คือ ซุปที่เรียกว่าสึโบนิ
ถ้าสังเกตที่ผนังก็จะเห็นภาพมันดาลาทาเตยามะประดับอยู่ ให้เราได้ชมและพิจารณาความเชื่อของทาเตยามะชิงโคในระหว่างรับประทานอาหารได้ด้วย

 

ต่อไปถึงคิวของคุณแล้ว!

ว่ากันว่าหลังจากที่มนุษย์หมดอายุขัยก็จะต้องไปพบกับ “ท่านเอ็นมะ (ผู้พิพากษาวิญญาณหลังความตาย)” ซึ่งเป็นที่ที่วิญญาณทุกดวงเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วต้องมาที่แห่งนี้ และรูปเหมือนท่านเอ็นมะก็มีประดิษฐานอยู่ใน “เอ็นมะโด” โดยมีอมบะซามะอยู่ด้านซ้ายและขวา
 

ผู้ศรัทธาทาเตยามะชิงโคก็จะอธิษฐานขอให้ชีวิตหลังความตายได้ไปสู่ “ดินแดนบริสุทธิ์” (สวรรค์) 
ในสมัยก่อนผู้หญิงจะถูกห้ามขึ้นเขาทาเตยามะและมีความเชื่อว่ามีวิธีช่วยผู้หญิงไม่ให้ตกนรกได้ จึงได้มีการจัดพิธีกรรม “นุโนะบาชิคันโจวเอะ” สืบทอดต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเราจะมาทำพิธี “นุโนะบาชิคันโจวเอะ” ที่สะพาน “นุโนะบาชิ”  โดยเราจะต้องปิดตาเดินข้ามสะพาน จุดเริ่มต้นคือสะพานนุโนะบาชิฝั่นเอ็นมะโด อีกฝั่งนึงเป็นฝั่งสุสาน เมื่อแบ่งครึ่งสะพานออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งเอ็นมะโดจะถือเป็น “โลกนี้” (โลกปัจจุบัน) และฝั่งสุสานถือเป็น “ชีวิตหลังความตาย” (โลกหลังความตาย)
ถ้าอย่างนั้นเรามาปิดตาเดินข้ามสะพานกันนะคะ แต่ต้องระวังนะ ดินแดนบริสุทธิ์คือสถานที่สำหรับคนดีเท่านั้น คนที่ไม่คู่ควรจะถูก “งูใหญ่” ที่อยู่ใต้สะพานฉุดลงไปสู่ขุมนรก !
ว่ากันว่าหากคนที่ปิดตาข้ามสะพานนุโนะบาชินั้นเป็นคนทำชั่ว เค้าจะต้องรู้สึกว่าผ้าปิดตาบางกว่าใยแมงมุมและไม่สามารถข้ามได้
ขอเชิญรวบรวมความกล้าแล้วมาข้ามสะพานกันนะคะ
 

เข้ามาค้นพบโทยามะทำความรู้จักกันให้มากกว่าเดิม

โทยามะแม้จะมีชื่อเสียงในเรื่องธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์สัตว์ทะเลก็ตาม แต่ ณ พื้นที่แห่งนี้ก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังแห่งศรัทธาอันเข้มแข็ง นับเป็นสิ่งดึงดูดใจทำให้อยากไปเยี่ยมชม ! จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนได้ลองเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ความเชื่อทาเตยามะชิงโคที่หยั่งรากลึกอยู่ในโทยามะกันค่ะ คุณอาจประทับใจจนอยากไปซ้ำอีกหลายครั้ง
 

ผู้ที่ดูหน้านี้ก็กำลังดูหน้าเหล่านี้อยู่เช่นกัน

เราใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ การเรียกดูต่อแสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา ดูนโยบายคุกกี้ของเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม