ค้นพบมรดกทางวัฒนธรรมของโทยามะ-1

ค้นพบมรดกทางวัฒนธรรมของโทยามะ

หมู่บ้าน และเมืองต่างๆ ของจังหวัดโทยามะได้รับการหล่อหลอมขึ้นจากศิลปะ งานฝีมือ และธุรกิจที่ผู้คนในพื้นที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ รวมทั้งความเชื่อทางจิตวิญญาณของพวกเขา อุตสาหกรรมหล่อโลหะและแกะสลักไม้ที่มีอายุเก่าแก่นี้มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองทากาโอกะและพื้นที่อินามิ และต่างก็เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่พัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาเมือง ช่างฝีมือในย่านเหล่านี้ยังคงพัฒนางานฝีมือของพวกเขาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงศตวรรษที่ 21 ในปัจจุบัน

โกคายามะเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโทยามะ ด้วยเงื่อนไขทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศทำให้พื้นที่นี้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกในบางช่วง ขณะเดียวกันก็ผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ทั่วทั้งจังหวัดโทยามะมีการจัดเทศกาลรื่นเริงเพื่อเฉลิมฉลองประเพณีทางวัฒนธรรมของพื้นที่ และบางเทศกาลก็ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกด้วย

เทศกาลเปี่ยมชีวิตชีวาที่เฉลิมฉลองให้แด่วัฒนธรรมท้องถิ่น

มีเทศกาลประจำปีมากมายที่เฉลิมฉลองให้แก่ประเพณีทางวัฒนธรรมของจังหวัดโทยามะ เทศกาลที่มีชื่อเสียง อาทิ เทศกาลทากาโอกะมิกุรุมะยามะ ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 1 พฤษภาคมในเมืองทากาโอกะ เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกจากบรรดาเทศกาลของญี่ปุ่นจำนวนมาก งานเทศกาลนี้มีไฮไลต์ที่ขบวนรถแห่ล้อใหญ่ยักษ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถม้า ออกแบบโดยมาเอดะ โทชิอิเอะ (ค.ศ. 1538-1599) ไดเมียวคนแรกผู้ครองแคว้นคางะ และผสมผสานความเป็นจังหวัดโทยามะในปัจจุบัน รถแห่สองคันซึ่งมีอายุกว่าสี่ศตวรรษถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ทากาโอกะมิกุรุมะยามะ

เทศกาลฟุกุโนะโยตากะจัดขึ้นทุกปีในย่านฟุกุโนะของเมืองนันโตะ ตั้งแต่วันที่ 1-3 พฤษภาคม ไฮไลต์ของขบวนรถแห่โคมไฟกระดาษขนาดใหญ่อยู่ในคืนที่สอง ได้แก่ “การประจัญบานรถแห่” ซึ่งกลุ่มคนที่แบกรถแห่จะพยายามทำลายรถแห่ที่สว่างไสวสวยงามของอีกฝ่าย ท่ามกลางเสียงกลองและเสียงเชียร์ที่เร้าใจ ในคืนสุดท้าย วันที่ 3 พฤษภาคม รถแห่ไม้ที่แกะสลักอย่างสวยงามจากสี่เมืองในนันโตะจะถูกแห่ไปตามถนนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนแห่ศาลเจ้าเคลื่อนที่ เทศกาลฟุกุโนะโยตากะอยู่ระหว่างการดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกในอนาคต

เทศกาลโจฮานะฮิกิยามะจัดขึ้นทุกวันที่ 4 และ 5 พฤษภาคม ที่บริเวณรอบศาลเจ้าชินเมอิงูในเมืองประวัติศาสตร์โจฮานะ เมืองนันโตะ งานจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 4 พฤษภาคม ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 5 พฤษภาคมตลอดทั้งวัน ขบวนรถแห่ เสียงร้องเพลง และการเต้นรำดั้งเดิมจะสร้างสีสันไปทั่วเมือง โดยมีนักเชิดสิงโตชิชิไมนำขบวนแห่ ตามมาด้วยรถแห่โดยชาวเมืองซึ่งจะร้องเพลงดั้งเดิมไปด้วย ไฮไลต์ของขบวนแห่นี้คือ รถแห่โจฮานะฮิกิยามะที่มีรูปปั้นของเทพชินโตขนาดยักษ์ เทศกาลโจฮานะฮิกิยามะได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก นักท่องเที่ยวยังสามารถชมรถแห่และการจัดแสดงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้ได้ที่หอนิทรรศการโจฮานะฮิกิยามะ

เอ็ตจูโอวาระคาเซะโนะบงเป็นเทศกาลโคมไฟพื้นบ้าน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 กันยายนในเมืองยัตสึโอะอันเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองโทยามะ ในเทศกาลมีทั้งการเต้นรำและร้องเพลง พร้อมเสียงดนตรีจากชามิเซ็น (เครื่องสายญี่ปุ่นโบราณ) และเสียงร้องเสียงสูง เทศกาลนี้ถูกจัดขึ้นมาเป็นเวลากว่าสามศตวรรษ และดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายังถนนสายประวัติศาสตร์ของยัตสึโอะ สามารถชมภาพฟุตเทจของเทศกาลนี้ได้ผ่านจอขนาดใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์ยัตสึโอะโอวาระ

วัดในจังหวัดโทยามะ: ความเงียบสงบ ความสง่างาม และความลึกลับ

วัดโคโกซังซุยริวจิในเมืองทากาโอกะเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมวัดพุทธนิกายเซ็นจากต้นยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นที่สักการะไดเมียวคนที่สองผู้ครองแคว้นคางะนามว่า มาเอดะ โทชินางะ ซึ่งเป็นผู้เริ่มพัฒนาเมืองทากาโอกะให้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรือง กลุ่มอาคารของวัดใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 20 ปี และการจัดเรียงอาคารแสดงให้เห็นถึงความสมมาตรเชิงสุนทรียศาสตร์ ความสวยงามของอาคารเหล่านี้สะท้อนภาพความมั่งคั่งของตระกูลมาเอดะที่เคยปกครองพื้นที่นี้ในอดีต อาคารหลายหลังของวัด ซึ่งรวมถึงหอพระพุทธ ได้รับเลือกให้เป็นสมบัติแห่งชาติ

วัดอุนริวซังโชโกจิเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองทากาโอกะและได้รับเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ หอหลักของวัดถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปลายยุคเอโดะ ในอดีต วัดนี้เคยถูกใช้เป็นป้อมปราการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดูขัดแย้งกับบรรยากาศอันแสนเงียบสงบในปัจจุบัน ในสมัยเซ็นโงกุ (ค.ศ. 1467-1568) วัดโชโกจิเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติครั้งใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่า การปฏิวัติคางะ โดยทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นของการเคลื่อนไหวอิกโก-อิกกิ (Ikko-Ikki) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของชาวนาและผู้นับถือศาสนาพุทธนิกายโจโดชินชู ในปัจจุบันวัดที่เงียบสงบแห่งนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจาก “เจ็ดความลึกลับ” เช่น ต้นแปะก๊วยที่ไม่มีผล และสระน้ำที่ไม่มีวันแห้งเหือด

มรดกงานฝีมือที่พัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

งานหล่อโลหะในทากาโอกะ

เมืองทากาโอกะมีอุตสาหกรรมหล่อโลหะที่เฟื่องฟูโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ย่านคานายะมาจิ (แปลตรงตัวได้ว่า “เมืองพ่อค้าโลหะ”) อุตสาหกรรมนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นที่นี่หลังจากมาเอดะ โทชินางะ ได้เชิญช่างหล่อโลหะเจ็ดคนมาตั้งร้านในทากาโอกะหลังจากที่เขาได้มาประจำการที่ปราสาททากาโอกะและก่อตั้งเมืองขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีการหล่อและผลิตชิ้นงานต่างๆ จากทองแดง ทำให้เมืองนี้มีชื่อเสียงในฐานะพื้นที่ผลิตงานทองแดงชั้นนำของประเทศ

ช่างฝีมืองานโลหะหลายคนยังคงสืบทอดงานฝีมือของพวกเขาในคานายะมาจิและย่านอื่นๆ ในเมืองทากาโอกะ เพื่อสร้างผลงานที่มีตั้งแต่เครื่องใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนาไปจนถึงเครื่องใช้ร่วมสมัยในบ้าน บ้านแถวไม้ระแนงในประวัติศาสตร์ยังคงมีเหลืออยู่ในคานายะมาจิ โดยอาคารบางหลังเป็นที่ตั้งของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานโลหะ ที่โอเตระ ร้านค้ากึ่งแกลเลอรีตั้งอยู่ในเวิร์กช็อปหล่อโลหะในอดีต คุณสามารถลองทำเครื่องประดับโลหะที่มีเอกลักษณ์ของคุณได้ คานายะเป็นแบรนด์และร้านขายสินค้าตกแต่งภายในแบบร่วมสมัยซึ่งผลิตขึ้นที่เวิร์กช็อปงานโลหะในทากาโอกะ

งานแกะสลักไม้ในอินามิ

เชื่อกันว่าอัคคีภัยครั้งใหญ่เป็นตัวเร่งให้อินามิพัฒนาเป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักจากงานแกะสลักไม้ หลังจากวัดซุยเซ็นจิในอินามิถูกทำลายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในปี 1762 ช่างแกะสลักทักษะสูงถูกนำตัวมาจากเกียวโตเพื่อช่วยซ่อมแซมวัดและสอนเทคนิคให้แก่ช่างฝีมือท้องถิ่น เมื่อเวลาผ่านไป ช่างแกะสลักในอินามิก็มีชื่อเสียงโด่งดังด้านทักษะการสร้างงานแบบ “สามมิติ” ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือต่างๆ กว่า 200 ชิ้น

ที่หอจัดแสดงงานแกะสลักไม้ของอินามิ นักท่องเที่ยวจะได้ชมตัวอย่างงานแกะสลักตั้งแต่วัตถุทางพุทธศาสนาไปจนถึงงานศิลปะร่วมสมัย มิจิโนะเอกิอินามิ ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากหอนิทรรศการ เปิดโอกาสให้คุณได้ลองทำงานแกะสลักด้วยตัวเอง ใกล้ๆ กันนั้น นักท่องเที่ยวสามารถชมตัวอย่างงานแกะสลักอินามิที่วัดซุยเซ็นจิได้

โกคายามะ: วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากธรรมชาติ

บ้านสไตล์กัชโชที่โดดเด่นตั้งอยู่กระจัดกระจายเลียบฝั่งแม่น้ำโชงาวะทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโทยามะ หลังคาของบ้านกัชโชเป็นหลังคามุงด้วยฟางทรงสามเหลี่ยมที่สูงชัน คล้ายกับมือที่กำลังพนมอยู่ การออกแบบเช่นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้หิมะที่ตกลงมาสะสมบนหลังคา

จวบจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 พื้นที่นี้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกในบางช่วงของปีเนื่องจากภูเขาสูงชันที่รายล้อมและหิมะตกหนัก และการตัดขาดจากโลกภายนอกนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมและแนวปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ โกคายามะเป็นพื้นที่กว้างขวางซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านสไตล์กัชโชในจังหวัดโทยามะ หมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งคือ ไอโนะคุระและซูงานุมะ ทั้งสองแห่งได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกันกับหมู่บ้านโองิมาจิในชิรากาวะโกในจังหวัดกิฟุ

บ้านหลายหลังถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ในช่วงที่หมู่บ้านเจริญรุ่งเรืองที่สุดมีบ้านสไตล์กัชโชถึงประมาณ 1,850 หลังในจังหวัดโทยามะและกิฟุ ปัจจุบันมีบ้านสไตล์กัชโชเหลืออยู่ประมาณ 180 หลัง ที่ไอโนะคุระมีบ้านสไตล์กัชโชอยู่ 20 หลัง บ้านหลายหลังถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ร้านอาหาร และที่พัก ส่วนหลังอื่นๆ นอกจากนั้นคือบ้านส่วนบุคคล ในซูงานุมะมีบ้านสไตล์กัชโชอยู่ 9 หลัง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันรอบบริเวณสระน้ำ

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโกคายามะจัดแสดงประวัติศาสตร์และประเพณีของพื้นที่ในเชิงลึก การเลี้ยงหนอนไหม เกษตรกรรม การผลิตดินประสิว (ใช้ในดินปืน) และกระดาษวาชิ เป็นอุตสาหกรรมที่ผู้อยู่อาศัยในบ้านสไตล์กัชโชทำเพื่อเลี้ยงชีพ

หนึ่งในบ้านสไตล์กัชโชที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นคือ บ้านอิวาเซะ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนิชิอากาโอะ บ้านห้าชั้นหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจห้องใต้หลังคา นั่งรอบเตาที่ฝังลงในพื้น เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบ้าน และลองเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้านดั้งเดิม

ผู้ที่ดูหน้านี้ก็กำลังดูหน้าเหล่านี้อยู่เช่นกัน

เราใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ การเรียกดูต่อแสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา ดูนโยบายคุกกี้ของเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม